คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้รับภาพถ่ายของทำเนียบขาว เพนตากอน และบรรดาเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ ในฐานทัพเรือนอร์ฟอล์ค ซึ่งบันทึกไว้ได้โดยดาวเทียมสอดแนมที่ทางเปียงยางเพิ่งปล่อยขึ้นสู่วงโคจรเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ตามรายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) ในวันอังคาร (28 พ.ย.)
เกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้วประสบความสำเร็จใจการปล่อยดาวเทียมสอดแนมดวงแรกของประเทศขึ้นสู่วงโคจร ซึ่งพวกเขาระบุว่าออกแบบมาเพื่อจับตาความเคลื่อนไหวด้านการทหารของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้
ภาพถายชุดล่าสุดนี้เป็นหนึ่งในภาพถ่ายที่ทางเคซีเอ็นเอ ให้คำจำกัดความในฐานะ "เป้าหมายหลักๆ ในภูมิภาคต่างๆ" ที่ส่งมาโดยดาวเทียม ในนั้นรวมถึงกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ และฐานทัพทหารต่างๆ ของสหรัฐฯ
รายงานข่าวระบุอีกว่า คิม ยังได้ตรวจสอบภาพถ่ายทางดาวเทียมฐานทัพอากาศแอนเดอร์สัน ในดินแดนกวมของสหรัฐฯ ในทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก และอู่ต่อเรือและฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ในนอร์ฟอล์คและนิวพอร์ท จุดที่ส่องพบเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ 4 ลำ และเรือบรรทุกเครื่องบินของสหราอาณาจักร 1 ลำ
ก่อนหน้านี้สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือ เคยรายงานว่าดวงตาบนท้องฟ้าใหม่ของพวกเขา ได้มอบภาพถ่ายที่ตั้งทางทหารสำคัญๆ ของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เช่นเดียวกับภาพถ่ายของกรุงโรม เมืองหลวงของอิตาลี
มหาอำนาจตะวันตก สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ประณามการยิงดาวเทียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ห้ามใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธใดๆ
อย่างไรก็ตาม ทางเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ ได้ปรากฏตัวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แบบที่ไม่พบเห็นบ่อยนักในวันจันทร์ (27 พ.ย.) พร้อมปกป้องประเทศของเขาต่อการปล่อยดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่วงโคจร
คิม ซอง เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือ แสดงความคร่ำครวญว่าประเทศอื่นๆ ไม่เห็นเผชิญกับข้อจำกัดต่างๆ ในด้านการปล่อยดาวเทียม "ไม่มีประเทศไหนในโลกที่สิ่งแวดล้อมด้านความมั่นคงอยู่ในภาวะวิกฤตเท่าเกาหลีเหนือ ฝ่ายปรปักษ์หนึ่ง นั่นคือสหรัฐฯ กำลังข่มขู่เราด้วยอาวุธนิวเคลียร์"
"มันคือสิ่งชอบธรรมตามกฎหมายสำหรับเกาหลีเหนือ ในฐานะฝ่ายปรปักษ์หนึ่งที่พัฒนา ทดสอบ ผลิตและครอบครองระบบอาวุธ เทียบเท่ากับที่สหรัฐฯ ครอบครองหรือกำลังพัฒนา" เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือระบุ
เขาเยาะเย้ยคำกล่าวหาของสหรัฐฯ ที่ว่าเทคโนโลยีดาวเทียมยังสามารถช่วยเกาหลีเหนือยกระดับศักยภาพขีปนาวุธ พร้อมตั้งคำถามว่าสหรัฐฯ ส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรด้วยขีปนาวุธหรือไม่
ลินดา โธมัส กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของเกาหลีเหนือที่ว่ามันเป็นปฏิบัติการป้องกันตนเอง และบอกว่าการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ จัดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว และเป็นการซ้อมรบในลักษณะของการป้องกันตนเอง
"เราตั้งใจลดความเสี่ยงและแสวงหาความโปร่งใสด้วยการแถลงการซ้อมรบล่วงหน้า ในนั้นรวมถึงวันเวลาและกิจกรรมต่างๆ ต่างจากเกาหลีเหนือ" เธอกล่าว พร้อมระบุว่าการซ้อมรบไม่ได้ละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
สำนักงานข่าวกรองเกาหลีใต้ อ้างว่า รัสเซีย ซึ่งกระตือรือร้นของความช่วยเหลือในยูเครน มีส่วนช่วยเกาหลีเหนือในด้านดาวเทียม ตามหลังการประชุมซัมมิตระหว่าง คิม จองอึน กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย
สหรัฐฯ กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่าเกาหลีเหนือ ส่งมอบตู้สินค้าที่บรรจุยุทโธปกรณ์ทางทหารและกระสุนแก่รัสเซียมากกว่า 1,000 ตู้
รัสเซียและจีน พันธมิตรหลักของเกาหลีเหนือ ได้ผลักดันญัตติหนึ่งซึ่งถูกคัดค้านโดยสหรัฐฯ ในการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานเปียงยาง ส่วนหนึ่งในความพยายามประสานงานเจรจาทางการทูต
เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ กล่าวหาสหรัฐฯ "โหมกระพือความตึงเครียดและการเผชิญหน้าหนักหน่วงขึ้น" ผ่านความเป็นพันธมิตรทางทหารกับเกาหลีใต้
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)