ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุวันนี้ (14 พ.ย.) ว่าบรรดารัฐสมาชิกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ร่วมบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงในสงครามเกาหลีกำลังวิตกกังวลว่า “จีน” และ “รัสเซีย” อาจมีส่วนในการเสริมเขี้ยวเล็บทางทหารให้แก่เกาหลีเหนือ โดยการช่วยให้เปียงยางหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็น
ถ้อยแถลงของ ออสติน มีขึ้นที่เกาหลีใต้ ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมและคณะผู้แทนจาก 17 ประเทศซึ่งร่วมกันจัดตั้งกองบัญชาการสหประชาชาติ (UNC) หน่วยงานที่กำกับดูแลการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่าง 2 เกาหลี
“เรารู้สึกกังวลอย่างยิ่งที่สาธารณรัฐประชาชนจีนและรัสเซียสนับสนุนเกาหลีเหนือให้ขยายศักยภาพ (ทางทหาร) โดยการช่วยพวกเขาหลบหลีกมาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติ (UNSC)” ออสติน กล่าว
“และเรายังไม่สบายใจที่เห็นรัสเซียและเกาหลีเหนือขยายความร่วมมือทางทหารกันในระยะนี้”
สหรัฐฯ กล่าวหาว่าเกาหลีเหนือส่งเครื่องกระสุนและอาวุธต่างๆ ช่วยรัสเซียทำสงครามในยูเครน โดยที่มอสโกก็ตอบแทนให้ด้วยการถ่ายทอดเทคโนโลยี และมอบความช่วยเหลือด้านเทคนิคต่างๆ ให้แก่กองทัพโสมแดง
แม้รัสเซียและเกาหลีเหนือจะปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้มี “ดีลอาวุธ” กันอย่างที่สหรัฐฯ อ้าง ทว่าผู้นำ คิม จองอึน และประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ก็ได้ประกาศยกระดับความร่วมมือทางทหารในการประชุมซัมมิตเมื่อเดือน ก.ย. ที่ภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย
ทางด้านจีนซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดเกาหลีเหนือมากที่สุดก็ยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีต่อนานาชาติ
คำแถลงร่วมระหว่างเกาหลีใต้และ UNC ได้ประณามโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ “ที่ผิดกฎหมาย” ของเกาหลีเหนือ และย้ำว่า “จะผนึกกำลังตอบโต้ หากมีการใช้ความรุนแรงหรือการโจมตีด้วยอาวุธเกิดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี”
ชิน วอน ซิก รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ย้ำเตือนเปียงยางว่าอย่าได้คิดกระทำการก้าวร้าวใดๆ เพราะปัจจุบันเกาหลีเหนือเป็นรัฐสมาชิกของสหประชาชาติแล้ว ซึ่งแตกต่างจากเมื่อช่วงปี 1950 ที่สงครามเกาหลีเริ่มปะทุขึ้น
“หากเกาหลีเหนือรุกรานเกาหลีใต้อีกครั้ง ก็จะเป็นการกระทำที่ขัดแย้งต่อสถานะของตัวเองซึ่งเป็นรัฐสมาชิกยูเอ็น แต่กลับโจมตีกองบัญชาการยูเอ็น” ชิน ระบุในการประชุม
“และหากประเทศที่เคยสนับสนุนเกาหลีเหนือในสงครามเกาหลีพยายามที่จะช่วยเหลืออีกครั้ง ประเทศเหล่านั้นก็จะต้องเผชิญบทลงโทษที่รุนแรงจากประชาคมโลก เช่นเดียวกับเกาหลีเหนือ”
รัฐบาลโสมแดงออกมาประณาม UNC ว่า “เป็นเครื่องมือที่สหรัฐฯ ใช้ยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้า” และเป็น “องค์กรสงครามผิดกฎหมาย” ที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับภารกิจของสหประชาชาติ พร้อมเรียกร้องให้ยุบองค์กรดังกล่าวเสียเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามครั้งใหม่ขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี
ที่มา : รอยเตอร์