รัฐบาลเกาหลีเหนือออกมาวิจารณ์เกาหลีใต้กรณียกเลิกกฎหมายห้ามนักเคลื่อนไหวโปรยใบปลิวต่อต้านระบอบคิมข้ามไปยังฝั่งเกาหลีเหนือ ซึ่งเปียงยางชี้ว่าเป็นการทำสงครามจิตวิทยา พร้อมขู่จะตอบโต้ด้วย “ห่ากระสุน”
คำแถลงที่เผยแพร่โดยสำนักข่าว KCNA เมื่อวันพุธ (8 พ.ย.) ถือเป็นครั้งแรกที่สื่อรัฐบาลโสมแดงออกมาคอมเมนต์เกี่ยวกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้เมื่อเดือน ก.ย. ซึ่งสั่งให้ยกเลิกกฎหมายปี 2020 ที่กำหนดโทษทางอาญาสำหรับการโปรยใบปลิว
ศาลให้เหตุผลว่า กฎหมายดังกล่าวถือเป็นการลิดรอนเสรีภาพในการแสดงออกมากเกินไป
ก่อนหน้านั้น กลุ่มนักเคลื่อนไหวที่เป็นอดีตผู้ลี้ภัยโสมแดงได้รวมตัวยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อคัดค้านกฎหมายดังกล่าว รวมถึง พัค ซังฮัก (Park Sang-hak) ซึ่งเป็นแกนนำจัดกิจกรรมส่งบอลลูนโปรยใบปลิวต่อต้านเกาหลีเหนือมานานหลายปี
นอกจากจะโปรยใบปลิววิพากษ์วิจารณ์ผู้นำ คิม จองอึน และโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือแล้ว พัค และนักเคลื่อนไหวคนอื่นๆ ยังใส่ธนบัตรดอลลาร์สหรัฐ และ USB ที่มีข้อมูลข่าวสารจากโลกภายนอกเอาไว้ในบอลลูนเพื่อหวังเปิดโลกทัศน์ให้ชาวโสมแดงด้วย
KCNA อ้างความเห็นจากนักวิจารณ์การเมืองผู้หนึ่งซึ่งระบุว่า เกาหลีเหนือจะถือว่าการโปรยใบปลิว “เป็นการทำสงครามจิตวิทยาขั้นสูง” และอาจเข้าข่ายเป็นการ “ลงมือโจมตีก่อน (preemptive attack) ก่อนที่จะเริ่มต้นสงคราม”
“ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่เหตุกระทบกระทั่งเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่ระเบิดรุนแรง ไม่มีอะไรการันตีได้ว่า ความขัดแย้งทางทหารเช่นที่เกิดในยุโรปและตะวันออกกลางจะไม่เกิดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี” KCNA เตือน
สื่อโสมแดงยังเตือนด้วยว่า การโปรยใบปลิวครั้งต่อๆ ไปอาจนำไปสู่มาตรการตอบโต้รุนแรงกว่าที่เคยเป็นจากกองทัพเกาหลีเหนือ ซึ่งพร้อมที่จะ “สาดห่ากระสุนปืนใหญ่” เข้าไปยังสถานที่ซึ่งถูกใช้ในการโปรยใบปลิวเหล่านั้น
เกาหลีเหนือระมัดระวังอย่างยิ่งเกี่ยวกับความพยายามจากภายนอกที่จะปลุกปั่นให้ชาวเกาหลีเหนือ 26 ล้านคนคิดล้มล้างระบอบคิม และใช้มาตรการควบคุมข่าวสารจากต่างประเทศอย่างเข้มงวด
สำหรับกฎหมายห้ามโปรยใบปลิวข้ามแดนนั้นถูกประกาศใช้โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ชุดที่แล้วซึ่งมีนโยบายสานสัมพันธ์ลดความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ โดยมีขึ้นเพียง 6 เดือนหลังจากที่เปียงยางแสดงความไม่พอใจเรื่องใบปลิว และระเบิดทำลายสำนักงานประสานงานสองเกาหลีที่เมืองแกซองในเดือน มิ.ย. ปี 2020
ที่มา : AP