xs
xsm
sm
md
lg

เหมือนไฟเขียว! สหรัฐฯ เร้ารัฐยิวกำหนด 'เซฟโซน' ป้องพลเรือนปาเลสไตน์ ก่อนจะกลับมาถล่มกาซาอีกรอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางเยือนอิสราเอล ในวันพฤหัสบดี (30 พ.ย) เร่งเร้ารัฐยิวจัดตั้งโซนความปลอดภัย (safe zones) สำหรับพลเรือนปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ก่อนที่อิสราเอลจะกลับมาเปิดปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ในดินแดนที่ปกครองโดยนักรบฮามาสอีกรอบ

ในการให้สัมภาษณ์ ในวันที่ 7 ของข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ทาง บลิงเคน ยังเรียกร้องขอขยายกรอบเวลาข้อตกลงเพิ่มเติม ซึ่งในนั้นรวมถึงแลกเปลี่ยนตัววประกันและนักโทษ เช่นเดียวกับส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าสู่ฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อม

"ชัดเจนว่าเราต้องการเห็นกระบวนการนี้เดินหน้าต่อไป" เขาบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในเทลอาวีฟ ในช่วงท้ายของการเยือนอิสราเอลและดินแดนยึดครองเวสต์แบงก์ "เราต้องการหยุดยิงวันที่ 8 และนานกว่านั้น"

ข้อตกลงหยุดยิงซึ่งมีกำหนดหมดอายุในวันศุกร์ (1 ธ.ค.) หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขยายเวลาออกไปเพิ่มเติม เปิดทางให้มีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลและชาวช่างชาติที่ถูกฮามาสควบคุมตัวไป ในปฏิบัติการจู่โจมนองเลือดเล่นงานทางใต้ของอิสราเอล แลกเปลี่ยนกับนักโทษปาเลสไตน์

บลิงเคน อยู่ระหว่างเดินทางเยือนภูมิภาคแถบนี้เป็นวันที่ 3 นับตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคม โดยมีจุดเริ่มต้นจากการที่พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอล สังหารผู้คนไปราว 1,200 ราย และจับไปเป็นตัวประกันราว 240 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน

จากนั้นอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีแก้แค้นด้วยการทิ้งบอมบ์ถล่มฉนวนแห่งนี้ และยกระดับการจู่โจมทางภาคพื้นบริเวณทางเหนือ ส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วเกือบ 15,000 คน ในนั้นเป็นเด็กและผู้หญิงหลายพันคน และรัฐบาลที่บริหารงานโดยฮามาสของกาซา ระบุว่ามีผู้ไร้ถิ่นฐานอีกหลายแสนคน

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า "อิสราเอลต้องวางแผนด้านมนุษยธรรมปกป้องพลเรือน ที่ลดความสูญเสียชีวิตของประชาชนชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์" เพื่อสิ่งนี้ เขาแนะนำว่า "ควรมีการกำหนดพื้นที่และสถานที่ต่างๆ อย่างชัดเจนและแน่นอน ทางใต้และทางภาคกลางของกาซา บริเวณที่ประชาชนจะมีความปลอดภัยและอยู่นอกเขตกระสุน"

เขาบอกว่าสิ่งนี้มีเจตนาพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พลเรือนในกาซาต้องไร้ถิ่นฐานเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับก่อความสูญเสียแก่ชีวิตและสร้างความเสียหายแก่โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่สำคัญ อย่างเช่นโรงพยาบาล โรงไฟฟ้าและสถานีน้ำประปา

บลิงเคน กล่าวว่า อิสราเอล "มีศักยภาพกำจัดภัยคุกคามจากฮามาส พร้อมๆ กับก่ออันตรายแก่ชีวิตผู้ชาย ผู้หญิงและเด็กน้อยที่สุด และพวกเขามีหน้าที่ที่ต้องทำเช่นนั้น" เขาเน้นอีกว่า "สหรัฐฯ มองว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ความสูญเสียมหาศาลที่เกิดขึ้นกับชีวิตพลเรือน และการไร้ถิ่นฐานของผู้คนจำนวนมาก อย่างที่เราพบเห็นในทางเหนือของฉนวนกาซา ต้องไม่เกิดซ้ำอีกในทางใต้"

ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยทำเนียบนายกรัฐมนตรี ทางเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุว่า เขาได้หยิบยก เหตุการณ์กราดยิงเสียเลือดนี้ในเยรูซาเลมในวันพฤหัสบดี (1 ธ.ค.) ซึ่งต่อมา ฮามาสออกมากล่าวอ้างความรับผิดชอบ พูดคุยกับ บลิงเคน โดยบอกว่ารัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไปว่า "ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งเราได้"

"เราจะเดินหน้าสงครามนี้จนกว่าเราจะบรรลุเป้าหมาย 3 อย่าง ไม่ว่าจะเป็นปลดปล่อยตัวประกันทั้งหมดของเรา กำจัดฮามาสโดยสิ้นเชิง และรับประกันไม่มีภัยคุกคามนี้จะไม่โผล่ออกมาจากฉนวนกาซาอีกแล้ว" เนทันยาฮู กล่าว

หลังการพบปะกัน บลิงเคน เดินทางด้วยขบวนรถหุ้มเกราะมุ่งหน้าสู่สำนักงานใหญ่ขององค์การปาเลสไตน์ในเมืองรามัลเลาะห์ของเวสต์แบงก์ เพื่อพูดคุยกับประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส "ทั้งสองคนพูดคุยกันเกี่ยวกับความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับมาตรการต่างๆ เพื่อยกระดับความปลอดภัยและเสรีภาพของชาวปาเลสไตน์ในเวสต์แบงก์" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุ

"บลิงเคนเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ ยังคงมุ่งมั่นต่อการสานต่อขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมสำหรับรัฐปาเลสไตน์" ถ้อยแถลงระบุ

ความรุนแรงโหมกระพือขึ้นในเวสต์แบงก์ ที่ถูกอิสราเอลยึดครองมาตั้งแต่ปี 1967 ควบคู่ไปกับสงครามอิสราเอล-ฮามาส อ้างอิงจากกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ที่ปกครองโดยฮามาส มีชาวปาเลสไตน์ถูกทหารอิสราเอลหรือพวกผู้ตั้งถิ่นฐานอิสราเอล สังหารไปแล้วเกือบ 240 คน นับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น