แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงเทล อาวีฟ ในวันพฤหัสบดี(30พ.ย.) โดยคาดหมายว่าเขาจะพบปะกับพวกผู้นำอิสราเอล หารือเกี่ยวกับการขยายข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวระหว่างอิสราเอลกับนักรบฮามาส รวมไปถึงยกระดับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ป้อนสู่ฉนวนกาซา
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่ฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางเยือนภูมิภาคแถบนี้ ขณะเดียวกันยังคาดหมายว่า บลิงเคน จะใช้โอกาสนี้เดินทางเยือนดินแดนยึดครองเวสต์แบงก์ด้วย และพบปะกับ มาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์
"ในช่วง 2-3 วันข้างหน้า เราจะมุ่งเน้นดำเนินการที่สิ่งที่เราสามารถขยายการหยุดยิง เพื่อที่เราจะเดินหน้าช่วยเหลือตัวประกันออกมาและป้อนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไป" บลิงเคนกล่าวระหว่างแถลงข่าวในบรัสเซลส์เมื่อวันพุธ(29พ.ย.)
ข้อตกลงหยุดยิงนำความสงบหวนคืนสู่กาซาเป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ หลังจากที่ผ่านมา ถูกอิสราเอลทิ้งบอมบ์ถล่มอย่างหนัก แก้แค้นกรณีที่พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมอาละวาด สังหารผู้คนไปราวๆ 1,200 รายและจับตัวประกัน 240 คน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
อิสราเอล ประกาศกร้าวว่าจะขุดรากถอนโคนฮามาส ซึ่งปกครองฉนวนกาซา ในขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุบในกาซา เปิดเผยว่าปฏิบัติการของอิสราเอล ในการทิ้งบอมบ์ถล่มดินแดนเล็กๆที่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่นแห่งนี้ สังหารผู้คนไปจนถึงตอนนี้แล้วมากกว่า 15,000 ราย ในนั้นราวๆ 40% เป็นเด็ก
นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น บลิงเคน ดำเนินการทางการทูตที่เดิมพันสูงกับอิสราเอลและพวกผู้นำอาหรับ เพื่อช่วยรับประกันว่าความขัดแย้งจะไม่ขยายวงกว้าง ผลักดันให้มีการปล่อยตัวประกัน และอำนวยความสะดวกเปิดทางความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซา ดินแดนที่กำลังเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรม
เมื่อวันพุธ(29พ.ย.) ฮามาสปล่อยตัวประกันออกมา 16 คน ในวันสุดท้ายของการขยายกรอบเวลาหยุดยิง 2 วัน ทั้งนี้คาดหมายว่าอิสราเอละปล่อยชาวปาเลสไตน์ออกจากเรือนจำต่างๆของพวกเขาอีก 30 คน ในขณะที่การแลกเปลี่ยนนี้คือองค์ประกอบหลักของข้อตกลงหยุดยิง
(ที่มา:รอยเตอร์)