xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวดีรอบใหม่! ฮามาสปล่อยแล้วตัวประกันชุด 2 อีก 17 คน ในนั้นมีคนไทย 4 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฮามาสในวันเสาร์ (25 พ.ย.) ปล่อยตัวพลเรือนอิสราเอลและชาวต่างชาติกลุ่มที่ 2 ที่พวกเขาจับเป็นตัวประกันในฉนวนกาซา แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ หลังก่อนหน้านี้มีปัญหาล่าช้านานหลายชั่วโมง โหมกระพือความวิตกกังวลว่าข้อตกลงอาจพังครืน

เจ้าหน้าที่อิสราเอลเปิดเผยว่า ชาวอิสราเอล 13 คน และพลเมืองไทย 4 คน เดินทางกลับสู่ อิสราเอลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ถ้อยแถลงร่วมระหว่างกองทัพอิสราเอลกับหน่วยงานความมั่นคง Shin Bet มีขึ้นหลังจากทำเนียบนายกรัฐมนตรีระบุในถ้อยแถลงว่า ทางรัฐบาล "อ้าแขนต้อนรับตัวประกัน 17 คนที่กำลังกลับสู่มาตุภูมิ ในนั้นเป็นพลเมืองของเรา 13 คน และพลเมืองไทย 4 คน"

ก่อนหน้านี้ ปีกติดอาวุธของพวกฮามาสบอกว่าได้ส่งมอบชาวอิสราเอล 13 คน และชาวต่างชาติ 7 คนแก่สภากาชาด อย่างไรก็ตามเหตุผลของความคลาดเคลื่อนในจำนวนชาวต่างชาติที่ได้รับการปล่อยตัวออกมา เบื้องต้นยังไม่มีความชัดเจน

การส่งมอบเกิดขึ้นล่าช้ากว่าที่คาดหมายไว้หลายชั่วโมง หลังจากพวกนักรบฮามาสกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิง คำกล่าวอ้างที่ทางเจ้าหน้าที่อิสราเอลปฏิเสธ

ความล่าช้าผิดคาดนี้ก่อความเครียดแก่บรรดาญาติๆ ของตัวประกัน เช่นเดียวกับคนกลางอย่างกาตาร์และอียิปต์ ที่พยายามจัดการกับความกังวลของพวกนักรบ ที่กล่าวหาว่า อิสราเอลกำลังแทรกแซงการเลือกตัวนักโทษสำหรับแลกตัว และไม่ยอมเปิดทางให้ความช่วยเหลือเข้าถึงมือพลเรือนในทางเหนือของฉนวนกาซา ระหว่างการหยุดยิง 4 วัน

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้ว ฮามาสบอกว่าพวกเขาตอบสนองทางในบวกต่อคนกลางไกลเกลี่ยจากอียิปต์และกาตาร์ หลังทั้ง 2 ชาติถ่ายทอดคำสัญญาจากอิสราเอลที่รับปากว่าจะยึดมั่นในทุกเงื่อนไขของข้อตกลง

กาตาร์ระบุว่าในการแลกเปลี่ยนรอบ 2 ของข้อตกลงหยุดยิง ตัวประกันชาวอิสราเอล 13 คน เป็นเด็ก 8 คน และผู้หญิง 5 คน จะได้รับการปล่อยตัวออกมา แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ 39 คน แบ่งเป็นเด็ก 33 คน และผู้หญิง 6 คน

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่าชาวต่างชาติ 7 คน ที่ถูกควบคุมตัวในกาซาจะได้รับการปล่อยตัวออกมาเช่นกัน

ฮามาสกล่าวหากองทัพอิสราเอลขัดขวางความช่วยเหลือจากการเข้าถึงทางเหนือของกาซา แก่นกลางในปฏิบัตการหลักของพวกเขา บริเวณที่พวกทหารห้ามพลเรือนเดินทางกลับเข้ามา ระหว่างข้อตกลงหยุดยิงที่เริ่มต้นขึ้นในช่วงเช้าวันศุกร์ (24 พ.ย.)

สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ระบุในหลายๆ เหตุการณ์ที่รายงานเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ย.) ว่ากองกำลังอิสราเอลเปิดฉากยิงและขว้างปากระป๋องแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้คนที่กำลังมุ่งหน้าสู่ทางทิศเหนือ โดยมีรายงานว่ามีอย่างน้อย 1 คนเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน

กระทรวงสาธารณสุขที่บริหารงานโดยฮามาสในฉนวนกาซา เปิดเผยว่ามีอีก 7 คนได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์คล้ายกันในวันเสาร์ (25 พ.ย.)

การส่งมอบตัวประกันที่ล่าช้ากว่าที่คาดหมายไว้หลายชั่วโมงในวันเสาร์ (25 พ.ย.) มีขึ้นตามหลังการแลกเปลี่ยนกันครั้งแรกในวันศุกร์ (24 พ.ย.) ซึ่งฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 13 ราย ทั้งหมดเป็นผู้หญิงและเด็ก แลกกับการที่อิสราเอลปล่อยผู้หญิงและเด็กปาเลสไตน์ 39 คน ออกจากเรือนจำ ภายใต้ข้อตกลงหนึ่งที่กำหนดการแลกเปลี่ยนไว้ที่อัตรา 3 ต่อ 1

นอกจากตัวประกันชาวอิสราเอลแล้ว ฮามาสยังปล่อยตัวคนไทย 10 คน และชาวฟิลิปปินส์อีก 1 คน ออกมาอย่างไม่คาดคิดอีกด้วย

พวกนักรบฮามาสจับตัวประกันไปราว 240 คน ครั้งที่พวกเขาบุกจู่โจมข้ามชายแดนจากฉนวนกาซาเข้าไปยังอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติไปราว 1,200 คน

หลังเหตุโจมตีครั้งนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ทางอิสราเอลได้แก้แค้นด้วยการเปิดปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ทั้งทางอากาศ ด้วยปืนใหญ่และทางทะเล เช่นเดียวกับรุกรานทางภาคพื้นฉนวนกาซา เพื่อทำลายพวกฮามาส สังหารผู้คนไปเกือบ 15,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ในนั้นเป็นเด็กหลายพันคน

วิดีโอที่เผยแพร่โดยพวกฮามาส เป็นภาพนักรบสวมหน้ากาก ติดอาวุธปืนไรเฟิล สมชุดเครื่องแบบทหารและโพกผ้าสีเขียวของปีกติดอาวุธฮามาส กำลังส่งมอบตัวประกันให้แก่สภากาชาดในวันศุกร์ (24 พ.ย.)

คาดหมายว่า ฮามาสจะปล่อยตัวประกันรวม 50 คน ระหว่างข้อตกลงหยุดยิง แลกกับนักโทษชาวอิสราเอล 150 คน ภายใต้ข้อตกลงที่มีกาตาร์ อียิปต์ และสหรัฐฯ เป็นคนกลาง

อียิปต์ เปิดเผยว่าพวกเขาได้รับปฏิกิริยาตอบสนองในทางบวกจากทั้ง 2 ฝ่าย เกี่ยวกับแนวคิดขยายกรอบเวลาของข้อตกลงหยุดยิงออกไปอีก 1 วันหรือ 2 วัน และการปล่อยตัวประกันและนักโทษเพิ่มเติม

"นี่มันแค่เริ่มต้น แต่จนถึงตอนนี้มันเป็นไปด้วยดี" ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าว พร้อมบอกว่ามีโอกาสอย่างแท้จริงที่จะขยายข้อตกลงหยุดยิง ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดน เรียกร้อง "ข้อตกลงหยุดยิงถาวรและยุติการรุกรานโดยสิ้นเชิง"

อย่างไรก็ตาม พล.ท.เฮอร์ซี ฮาเลวี ผู้บังคับการกองกำลังอิสราเอล ยืนกรานในวันเสาร์ (25 พ.ย.) ว่าจะหวนคืนสู่สงครามกำจัดฮามาส ทันทีที่ข้อตกลงหยุดพักรบสิ้นสุดลง

การหยุดยิงในกาซาเปิดทางสำหรับป้อนความช่วยเหลือเพิ่มเติมเข้าสู่ฉนวนแห่งนี้ เพื่อช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากภาวะขาดแคลนน้ำและปัจจัยอื่นๆ ที่จำเป็น หลังจากที่ผ่านมา อิสราเอลได้ทำการปิดล้อมกาซาแทบโดยสิ้นเชิง

รถบรรทุกสิ่งของบรรเทาทุกข์ต่างๆ ในนั้นรวมถึงเชื้อเพลิง อาหารและยาจากอียิปต์ เริ่มเคลื่อนเข้าสู่กาซา ผ่านจุดผ่านแดนราฟาห์ ในวันศุกร์ (24 พ.ย.) และคาราวานสิ่งของบรรเทาทุกข์มุ่งหน้าสู่ฉนวนกาซาเพิ่มเติมอีกในวันเสาร์ (25 พ.ย.)

สหประชาชาติประมาณการว่ามีพลเมืองกาซา 1.7 ล้านคน จากทั้งหมด 2.4 ล้านคน ที่ต้องไร้ถิ่นฐานจากการสู้รบ และนับตั้งแต่เกิดข้อตกลงหยุดยิง มีหลายพันคนกำลังเดินทางกลับสู่บ้านเมืองของพวกเขา "เราคือพลเมือง" มาห์มูด มาซูด ยืนอยู่ตรงหน้าอาคารที่พังราบในเขตจาบาเลีย ทางเหนือของกาซา "ทำไมต้องทำลายบ้านเรือนของพวกเราด้วย?" เขาตั้งคำถาม

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น