ฮามาสเตรียมปล่อยตัวประกันกลุ่มที่ 3 แลกเปลี่ยนกับนักโทษปาเลสไตน์ในวันอาทิตย์ (26 พ.ย.) ขณะที่อียิปต์เผยมีสัญญาณที่ดีจากทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับการขยายเวลาหยุดยิงออกไปอีก 1-2 วัน และปล่อยตัวประกันและนักโทษเพิ่ม กระนั้น ผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอลยืนกรานว่า สงครามกวาดล้างฮามาสจะดำเนินต่อไปทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวสิ้นสุดลง
กระทั่งข้อตกลงหยุดยิง 4 วันครั้งนี้ก็ยังอยู่ในสภาพบอบบางอาจถูกฉีกทิ้งได้ไม่ยาก โดยมีสัญญาณขึ้นมาในวันเสาร์ (25 พ.ย.) เมื่อการแลกเปลี่ยนตัวประกันระลอก 2 ที่ประกอบด้วยชาวอิสราเอลและ 4 คนไทย กับนักโทษปาเลสไตน์ ต้องล่าช้าออกไปหลายชั่วโมง หลังจากฮามาสกล่าวหาว่า อิสราเอลละเมิดข้อตกลงด้วยการแทรกแซงกระบวนการคัดเลือกนักโทษปาเลสไตน์ที่จะได้รับการปล่อยตัว และไม่ยอมให้จัดส่งความช่วยเหลือถึงมือพลเรือนในกาซา
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาฮามาสยินยอมผ่อนปรน หลังจากผู้ไกล่เกลี่ยจากอียิปต์และกาตาร์เผยว่า อิสราเอลให้สัญญาว่า จะปฏิบัติตามข้อตกลง และในที่สุดฮามาสได้ปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 13 คน ประกอบด้วยผู้หญิง วัยรุ่น และเด็ก และตัวประกันคนไทย 4 คนเมื่อคืนวันเสาร์ ส่วนอิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์ 39 คน ประกอบด้วยผู้หญิง 6 คน และเด็ก 33 คน
ทางด้านเจ้าหน้าที่อิสราเอลปฏิเสธว่า ไม่ได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และระบุว่า การกระทำของฮามาสเป็นสงครามทางจิตวิทยา
กระนั้น เมื่อวันอาทิตย์ สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเผยว่า ได้รับรายชื่อตัวประกันกลุ่มที่ 3 ที่จะได้รับการปล่อยตัวแล้วและได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงตรวจสอบ รวมถึงแจ้งให้ครอบครัวตัวประกันรับทราบ
การหยุดยิงและการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษนับเป็นการผ่อนคลายสถานการณ์ครั้งแรกสำหรับทั้งสองฝ่าย นับจากวันที่ 7 ต.ค. ที่นักรบฮามาสบุกเข้าไปในอิสราเอลและสังหารชาวอิสราเอลและต่างชาติราว 1,200 คน รวมทั้งจับตัวประกัน 240 คนกลับไปยังกาซา
แล้วอิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีอย่างหนักทั้งทางอากาศ ทะเล และปฏิบัติการภาคพื้นดินเพื่อทำลายฮามาส ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 15,000 คนในกาซา ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน รวมถึงเด็กหลายพันคน
อียิปต์ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกัน-นักโทษเผยว่า ได้รับการตอบสนองที่ดีจากทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับการขยายเวลาหยุดยิงออกไปอีก 1-2 วัน รวมทั้งการปล่อยตัวประกันและนักโทษเพิ่มขึ้นอีก
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ (24) ที่ผ่านมาว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นและทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ก่อนสำทับว่า มีโอกาสอย่างแท้จริงในการขยายเวลาหยุดยิง
ที่จอร์แดน รัฐมนตรีต่างประเทศ อัยมาน ซาฟาดี ก็เรียกร้องการหยุดยิงถาวรและยุติการรุกราน
ทว่า เมื่อวันเสาร์ (25) พล.ท.เฮอร์ซี ฮาเลวี ผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอล ยืนกรานว่า สงครามกวาดล้างฮามาสจะดำเนินต่อไปทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวสิ้นสุดลง
การปล่อยตัวประกันในวันอาทิตย์ถ้าหากเกิดขึ้น จะเป็นการปล่อยตัวประกันกลุ่มที่ 3 นับจากข้อตกลงหยุดยิงมีผลเมื่อวันศุกร์ โดยในช่วงสองวันนี้ฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลแล้ว 26 คน แลกเปลี่ยนกับนักโทษปาเลสไตน์ 78 คน
นอกจากนั้น ฮามาสยังปล่อยตัวประกันคนไทยรวม 14 คน และฟิลิปปินส์ 1 คน ซึ่งกระทรวงต่างประเทศอิหร่านเผยว่า ได้ร่วมกับกาตาร์ ซึ่งเป็นผู้ไกล่เกลี่ยหลักช่วยเจรจาในการปล่อยตัวประกันคนไทย
ทั้งนี้ คาดว่าฮามาสจะปล่อยตัวประกันทั้งหมด 50 คนระหว่างการหยุดยิง แลกเปลี่ยนกับนักโทษปาเลสไตน์ 150 คน ภายใต้ข้อตกลงที่มีกาตาร์ อียิปต์ และอเมริกาเป็นตัวกลาง
การหยุดยิงยังเปิดทางให้มีการจัดส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาที่ขาดแคลนน้ำและสิ่งของจำเป็นอื่นๆ ภายหลังอิสราเอลปิดล้อมกาซาเบ็ดเสร็จตั้งแต่เดือนที่แล้ว
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติแถลงว่า รถบรรทุก 61 คันได้ลำเลียงอาหาร น้ำ และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่าน “เส้นทางเพื่อมนุษยธรรม” เข้าสู่พื้นที่ตอนเหนือของกาซาเมื่อวันเสาร์ นอกจากนี้ ยังมีรถบรรทุกอีก 187 คันจัดส่งสิ่งของจำเป็นไปให้องค์กรบรรเทาทุกข์อื่นๆ ที่ดำเนินการอยู่ในฉนวนกาซา
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวในท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่แพทย์เผยว่า เกิดความรุนแรงในเขตยึดครองเวสต์แบงก์เมื่อคืนวันเสาร์จนถึงเช้าวันอาทิตย์ โดยกองทัพอิสราเอลได้สังหารชาวปาเลสไตน์ 7 คนซึ่งรวมถึงเด็ก 2 คนและมือปืนอย่างน้อย 1 คน
ข้อมูลของสหประชาชาติระบุว่า สถานการณ์ในเวสต์แบงก์มีความรุนแรงขณะที่เกิดสงครามในกาซา โดบนับจากวันที่ 7 ต.ค. มีชาวปาเลสไตน์ถูกกองทัพยิวสังหารกว่า 200 คนในดินแดนนี้
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
