xs
xsm
sm
md
lg

กาซาหยุดยิง 4 วันแลกปล่อยตัวประกัน ผู้นำอิสราเอลย้ำชัดเจนสงครามยังไม่จบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - อิสราเอลกับฮามาสตกลงหยุดยิง 4 วัน แลกกับการปล่อยตัวประกัน 50 คนที่ถูกควบคุมในกาซา และปล่อยนักโทษปาเลสไตน์ 150 คนในอิสราเอล ตลอดจนถึงการอนุญาตให้จัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่กาซา อย่างไรก็ดี ผู้นำอิสราเอลลั่นจะทำสงครามจนกว่าจะทำลายฮามาสสิ้นซาก นำตัวประกันทั้งหมดกลับบ้าน และทำให้แน่ใจว่าไม่มีกลุ่มใดในกาซาสามารถคุกคามอิสราเอลได้อีก

ทั้งนี้ เชื่อว่าฮามาสจับตัวประกันกว่า 200 คนกลับไปยังกาซา ตอนที่นักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้บุกเข้าไปในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. และสังหารผู้คนราว 1,200 คน

สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงเมื่อวันพุธ (22 พ.ย.) ว่าตัวประกันที่เป็นผู้หญิงและเด็ก 50 คนจะได้รับการปล่อยตัวภายใน 4 วัน ซึ่งระหว่างนั้นทั้งสองฝ่ายจะพักการสู้รบ และจะมีการขยายเวลาหยุดยิง 1 วันสำหรับการปล่อยตัวประกันเพิ่มเติมทุก 10 คน อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าการหยุดยิงจะเริ่มมีผลเมื่อใด

ด้านฮามาสแสดงความยินดีต่อข้อตกลงหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม และเผยว่า จะปล่อยตัวประกัน 50 คนแลกเปลี่ยนกับการที่อิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์ที่เป็นผู้หญิงและเด็ก 150 คน และเสริมว่า ข้อตกลงนี้ครอบคลุมการอนุญาตให้รถบรรทุกหลายร้อยคันลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ยา และเชื้อเพลิงเข้าสู่กาซา

ข้อตกลงนี้จะถือเป็นการหยุดยิงครั้งแรกในสงครามที่อิสราเอลระดมทิ้งระเบิดทำลายกาซาที่ปกครองโดยฮามาสราบเป็นหน้ากลอง ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 13,300 คน และประชาชนราว 2 ใน 3 จากทั้งหมด 2.3 ล้านคนกลายเป็นคนไร้บ้าน

ก่อนประชุมรัฐบาลเต็มคณะ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลได้หารือร่วมกับคณะรัฐมนตรีสงครามและคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับข้อตกลงนี้

นอกจากนั้น ก่อนประกาศข้อตกลง เนทันยาฮูเผยว่า การแทรกแซงของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของอเมริกา ช่วยปรับปรุงข้อตกลงเบื้องต้นให้ครอบคลุมการปล่อยตัวประกันจำนวนมากขึ้นและเงื่อนไขที่อิสราเอลต้องยินยอมน้อยลง แต่สำทับว่า ภารกิจของอิสราเอลยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือการทำสงครามจนกว่าเป้าหมายทั้งหมดจะบรรลุผล ซึ่งหมายถึงการทำลายฮามาส นำตัวประกันทั้งหมดกลับบ้าน และทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีกลุ่มใดในกาซาสามารถคุกคามอิสราเอลได้อีก

สื่อท้องถิ่นของอิสราเอล ซึ่งรวมถึงสถานีข่าวแชนเนล 12 คาดว่า ตัวประกันกลุ่มแรกจะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสฯ (23 พ.ย.) และการดำเนินการตามข้อตกลงต้องรอ 24 ชั่วโมงเพื่อให้พลเมืองอิสราเอลมีโอกาสยื่นขอให้ศาลสูงสุดห้ามการปล่อยนักโทษปาเลสไตน์

จนถึงขณะนี้ ฮามาสปล่อยตัวประกันเพียง 4 คน ได้แก่ พลเมืองอเมริกัน 2 คน คือ จูดิธ ราแนน วัย 59 ปี และนาตาลี ราแนน บุตรสาววัย 17 ปี เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม ต่อมาเมื่อวันที่ 23 เดือนเดียวกันมีการปล่อยตัวผู้หญิงอิสราเอล 2 คน คือ นูริต คูเปอร์ วัย 79 ปี และโยเชเวด ลิฟชิตซ์ วัย 85 ปี

ขณะเดียวกัน อิสลามิก ญิฮาด ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ที่ร่วมกับฮามาสบุกอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 เดือนที่แล้ว เปิดเผยเมื่อคืนวันอังคาร (21 พ.ย.) ว่าตัวประกันชาวอิสราเอลคนหนึ่งเสียชีวิต และโทษว่า ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มยินดีปล่อยตัวประกันหญิงผู้นี้ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม แต่เป็นเพราะทางฝั่งอิสราเอลเตะถ่วงจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์นี้

ที่เทลอาวีฟ บรรดาญาติพี่น้องของตัวประกันและผู้สนับสนุนนัดชุมนุมและเดินขบวนไปยังเยรูซาเลมเพื่อกดดันให้รัฐบาลอิสราเอลดำเนินการเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน นอกจากนี้ยังมีประชาชนหลายสิบคนชุมนุมหน้ากระทรวงกลาโหมในเทลอาวีฟเมื่อวันอังคารเรียกร้องให้รัฐบาลทำข้อตกลงปล่อยตัวประกัน

อย่างไรก็ดี ขณะที่ความสนใจของทั่วโลกจดจ้องที่ข้อตกลงปล่อยตัวประกัน การสู้รบภาคพื้นดินในกาซายังคงดำเนินต่อไป มูนีร์ อัล-บาร์ช อธิบดีกระทรวงสาธารณสุขกาซา เปิดเผยกับอัลจาซีราห์ทีวีว่า กองทัพอิสราเอลสั่งให้โรงพยาบาลอินโดนีเซียในกาซาซิตี้อพยพ โดยอ้างว่า นักรบอิสลามิสต์ปฏิบัติการจากโรงพยาบาลแห่งนี้ พร้อมขู่โจมตีภายใน 4 ชั่วโมง นอกจากนั้น เมื่อวันอังคาร อิสราเอลยังอ้างว่ากองกำลังของตนได้ล้อมค่ายจาบาเลีย ซึ่งเป็นค่ายผู้ลี้ภัยใหญ่ที่สุดในกาซา

สำนักข่าววาฟาของปาเลสไตน์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 33 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคนในค่ายจาบาเลียจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล นอกจากนี้ สื่อที่เกี่ยวข้องกับฮามาสยังรายงานว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่ออพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองคานยูนิสทางใต้ของกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บ 22 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น