เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติเรียกร้องในวันพุธ (22 พ.ย.) สำหรับ "จุดจบในขั้นท้ายสุด" ในสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในฉนวนกาซา พร้อมเตือนว่าข้อตกลงหยุดยิงแลกกับการปล่อยตัวประกัน "ไม่ควรเป็นแค่การหยุดพัก ก่อนการสังหารหมู่จะกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง"
ริยาด มันซูร์ เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติ พูดในเรื่องดังกล่าว หลังอิสราเอลและฮามาส แถลงบรรลุข้อตกลงหนึ่งในวันพุธ (22 พ.ย.) เปิดทางปล่อยตัวประกันอย่างน้อย 50 ราย แลกเปลี่ยนกับการปล่อยนักโทษปาเลสไตน์ 150 คนในอิสราเอล ขณะเดียวกัน เปิดโอกาสให้พลเมืองในกาซาที่ถูกปิดล้อมได้หายใจหายคอ ด้วยการหยุดยิงเป็นเวลา 4 วัน หลังต้องเผชิญกับสงครามเต็มรูปแบบมานานหลายสัปดาห์
"เด็กๆ ปาเลสไตน์หลายร้อยคนจะไม่ถูกสังหาร ต้องขอบคุณข้อตกลงหยุดยิงนี้" มันซูร์ บอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ "อย่างไรก็ตาม เรามีหน้าที่ต่อพวกเขา และต่อพลเรือนทั้งหมดในฉนวนกาซาในการยุติในขั้นท้ายสุดในการจู่โจมอาชญากรรมนี้ต่อประชาชนชาวปาเลสไตน์"
เขากล่าวขอบคุณประเทศกาตาร์และอียิปต์ ต่อบทบาทของทั้ง 2 ชาติ ในการหาทางให้เกิดข้อตกลงหยุดยิง และเรียกร้องทุกฝ่ายที่สนับสนุนให้หยุด "เรื่องบ้าๆ นี้" ให้ดำเนินการหาหนทางหนึ่งสำหรับหลีกเลี่ยงไม่ให้การรุกรานนี้เกิดขึ้นมาอีก "มันไม่อาจเป็นแค่การหยุดพัก ก่อนการสังหารหมู่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง"
มันซูร์ ยังประณามการยึดครอง การเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติและแบ่งแยกเชื้อชาติของอิสราเอลที่มีต่อชาวปาเลสไตน์ และบอกว่ามาตรการด้านการทหารไม่ใช่ทางออกของความขัดแย้งนี้ และขณะเดียวกันสิทธิที่ไม่อาจถูกพรากไปได้ของชาวปาเลสไตน์ก็จำเป็นต้องได้รับการปกป้อง
"ขณะเดียวกัน ชาวปาเลสไตน์ก็ไม่สามารถอ้างความชอบธรรมในการเข่นฆ่าพลเรือนอิสราเอลแม้แต่รายเดียว" เขากล่าว "ไม่มีใครควรได้รับการให้อภัยต่อความโหดร้ายป่าเถื่อน บนพื้นฐานของสถานะของผู้ก่อเหตุ"
"อิสราเอลและปาเลสไตน์ไม่ควรหรี่ตาข้างเดียวต่อการบาดเจ็บสูญเสียและต่อประวัติศาสตร์ของอีกฝ่าย แต่ควรเสริมสร้างความเคารพ เวอร์ชันแห่งอนาคตร่วมที่ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่เวอร์ชันที่ชีวิตหนึ่งมีค่ามากกว่าอีกชีวิตหนึ่ง" เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม กิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ ตอบโต้โดยบอกว่า ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลง "เราจะเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นมุ่งสู่เป้าหมายของเราอย่างเต็มกำลัง" เขากล่าว "เราจะไม่หยุดจนกว่าเราจะกำจัดศักยภาพก่อการร้ายทั้งหมดของฮามาส และรับประกันว่าพวกเขาสามารถปกครองฉนวนกาซาได้อีกต่อไป เช่นเดียวกับคุกคามทั้งพลเรือนอิสราเอล ผู้หญิง และเด็กของฉนวนกาซา"
(ที่มา : เอเอฟพี)