ทำเนียบขาวเตือนอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ (29 ต.ค.) จำเป็นต้องปกป้องชาวบ้านกาซาผู้บริสุทธิ์ แยกแยะระหว่างนักรบฮามาสกับพลเรือน ในขณะที่บรรดาผู้นำทั่วโลกส่งเสียงเรียกร้องหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าถึงดินแดนของปาเลสไตน์
เวลานี้อิสราเอลได้ยกระดับปฏิบัติการทางอากาศและทางภาคพื้น เล่นงานพวกนักรบฮามาสในฉนวนกาซาหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ตามหลังนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้ก่อเหตุบุกโจมตีอิสราเอลแบบไม่มีใครคาดคิด เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 1,400 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
นับตั้งแต่นั้น กระทรวงสาธารณสุขในกาซา เปิดเผยว่ามีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 8,000 ราย ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศแก้แค้นแบบไม่รามือของอิสราเอล ในนั้นครึ่งหนึ่งเป็นเด็ก
สหประชาชาติเตือนในวันอาทิตย์ (29 ต.ค.) ว่าความสงบเรียบร้อยของประชาชนเริ่มพังครืนลงในกาซา หลังพบเห็นประชาชนผู้อดอยากหลายพันคนปล้นสะดมคลังเก็บอาหารในฉนวนแห่งนี้ แย่งชิงข้าวสาลี แป้งและเสบียงอื่นๆ
จากสถานการณ์นองเลือด พบเห็นรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ส่งเสียงเตือนอิสราเอลในวันอาทิตย์ (29 ต.ค.) ว่าควรปกป้องชีวิตพลเรือน
"ในขณะที่พันมิตรของสหรัฐฯ มีสิทธิป้องกันตนเอง แต่พวกเขาควรดำเนินการในแนวทางที่สอดคล้องกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องพลเรือนในลำดับต้นๆ" ไบเดน บอกกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ระหว่งการพูดคุยทางโทรศัพ์ จากการเปิดเผยของทำเนียบขาว
การพูดคุยระหว่างไบเดน กับเนทันยาฮู มีขึ้นหลังจาก เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า "อิสราเอลควรใช้ทุกหนทางที่เป็นไปได้ในการแยกแยะระหว่างฮามาส ซึ่งเป็นพวกก่อการร้ายและเป็นเป้าหมายทางทหารที่ชอบธรรม กับพลเรือน ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร"
ไบเดน ยังได้พูดคุยกับประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี แห่งอียิปต์ และทำเนียบขาวเปิดเผยหลังจากนั้นว่า "ผู้นำทั้งสองให้คำมั่นเร่งรัดและเพิ่มกระแสความช่วยเหลือเข้าสู่ฉนวนกาซา เริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"
ถ้อยแถลงนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ในขณะที่พวกผู้นำโลกคนอื่นๆ ส่งเสียงเรียกร้องให้ส่งมอบความช่วยเหลือเข้าไปยังฉนวนกาซาเป็นการเร่งด่วน
ริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรและเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส "เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมอบแรงสนับสนุนด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วนเข้าสู่ดินแดนของปาเลสไตน์" ในขณะที่ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติบอกว่าสถานการณ์เริ่มสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละชั่วโมงที่ผ่านไป
ก่อนหน้านี้ กูเตอร์เรส บอกว่าเขารู้สึกเสียใจที่พบเห็นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอันสำคัญยิ่งจากประชาคมนานาชาติต้องหยุดชะงัก ท่ามกลางปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลที่ยกระดับความหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ "โลกกำลังเป็นประจักษ์พยานหายนะทางมนุษยธรรม" เขากล่าว "ผมเรียกร้องทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ถอยห่างออกจากขอบเหวนี้"
แม้สหรัฐฯ ยังคงเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งที่สุดของอิสราเอล แต่รัฐบาลของไบเดน ยืนยันว่าพวกผู้นำอิสราเอลคือคนตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียวในด้านปฏิบัติการทางทหารต่างๆ ของพวกเขา และออกมาส่งเสียงเรียกร้องต่อสาธารณะแล้วหลายครั้ง ขอให้แยกแยะพลเรือนปาเลสไตน์
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับรายงาน "This Week" ของสถานีโทรทัศน์เอบีซี ซัลลิแวนกล่าวว่า ฮามาสเป็นองค์กรก่อการร้ายที่โหดร้ายป่าเถื่อน ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ วางจรวดและโครงสร้างพื้นฐานก่อการร้ายอื่นๆ ในพื้นที่พลเรือน "แต่มันไม่ได้ทำให้ความรับผิดชอบต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศของอิสราเอลต้องลดน้อยถอยลงไป เช่นเดียวกับกฎแห่งสงคราม พวกเขาต้องทำทุกอย่างภายใต้อำนาจสำหรับปกป้องชีวิตพลเรือน"
ซัลลิแวน บอกว่าเวลานี้พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กำลังดำเนินการหาทางช่วยให้ตัวประกันมากกว่า 220 คนที่ถูกพวกฮามาสควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซา ได้รับการปล่อยตัวออกมา เช่นเดียวกับช่วยเหลือพลเมืองอเมริกัน-ปาเลสไตน์หลายร้อยคน ที่ติดอยู่ในกาซา
อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างอียิปต์และอิสราเอล พร้อมเปิดทางให้ชาวอเมริกันและพลเมืองต่างชาติอื่นๆ ออกจากฉนวนกาซา "พวกฮามาสกลับขัดขวางไม่ให้พวกเขาเดินทางออกมา"
(ที่มา : เอเอฟพี)