ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระบุในวันจันทร์ (23 ต.ค.) การพูดคุยใดๆ เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพวกฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมด ที่จับกุมตัวไประหว่างปฏิบัติการจู่โจมอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
"ตัวประกันเหล่านั้นควรได้รับการปล่อยตัว และเมื่อนั้นเราจะสามารถพูดคุยกันได้" ไบเดน กล่าวภายในกิจกรรมหนึ่งที่ทำเนียบขาว หลังถูกถามว่าเขาจะสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงแลกกับการปล่อยตัวประกันหรือไม่
ความคิดเห็นของเขามีขึ้นไม่นาน หลังจากพวกฮามาสปล่อยตัวประกันที่ลักพาไปจากอิสราเอล เพิ่มอีก 2 คน เป็นผู้หญิงทั้ง 2 คน หลังจากก่อนหน้านี้ จูดิธ และนาตาลี รานาน แม่ลูกชาวอเมริกัน ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันศุกร์ (20 ต.ค.) ที่ผ่านมา
อิสราเอลในวันจันทร์ (23 ต.ค.) ได้ปรับเพิ่มจำนวนคนที่ถูกจับเป็นตัวประกันเป็น 222 ราย ในเหตุการณ์กลุ่มมือปืนฮามาสบุกข้ามชายแดนโจมตีชุมชนและเมืองต่างๆ เช่นเดียวกับฐานทัพทหาร ทางภาคใต้ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
เจ้าหน้าที่อิสราเอลเผยว่า พวกนักรบฮามาส สังหารผู้คนไป 1,400 ราย ในเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ กระตุ้นให้อิสราเอล ตอบโต้ด้วยการเปิดปฏิบัติการถล่มทางอากาศเล่นงานกาซา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของฉนวนแห่งนี้ที่ปกครองโดยฮามาส บอกว่าจนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 5,000 คน
ไบเดน เผยด้วยว่าเขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเมื่อวันอาทิตย์ (22 ต.ค.) เกี่ยวกับความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาส และสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา "โป๊ปและผมเข้าใจตรงกัน พระองค์ทรงสนใจมากในสิ่งที่เรากำลังทำ"
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกต่อว่าเขาได้ให้ข้อมูลกับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เกี่ยวกับแผนให้การสนับสนุนอิสราเอลของอเมริกา และโป๊ปฟรานซิสสนับสนุนทั้งหมด
ในวันจันทร์ (30 ต.ค.) เช่นกัน ทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาเตือนว่าข้อตกลงหยุดยิงใดๆ โดยอิสราเอล จะเป็นประโยชน์ของสหรัฐฯ แม้มีรายงานว่าทางสหภาพยุโรปกำลังพิจารณาส่งเสียงเรียกร้องสำหรับการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม
แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "การหยุดยิงจะเปิดทางให้พวกฮามาสได้หยุดพัก เตรียมการใหม่และมีความพร้อมสำหรับเดินหน้าเปิดฉากโจมตีก่อการร้ายเล่นงานอิสราเอล"
"พวกคุณสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าทำไมมันถึงเป็นสถานการณ์ที่อดทนไม่ได้สำหรับอิสราเอล เนื่องจากมันเป็นสถานการณ์ที่ไม่อาจอดทนได้สำหรับประเทศไหนๆ ที่ต้องมาเผชิญกับการโจมตีก่อการร้ายอันโหดร้ายป่าเถื่อนเช่นนี้ และยังคงเห็นภัยคุกคามก่อการร้ายตรงหน้าตามแนวชายแดนของพวกเขา" เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม มิลเลอร์ บอกว่าสหรัฐฯ กำลังทำงานในอีกด้านหนึ่งเพื่อรับประกันว่าความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะไหลบ่าเข้าสู่ฉนวนกาซา โดยที่ เดวิด แซตเตอร์ฟิลด์ ทูตของอเมริกา กำลังดำเนินการอย่างเข้มข้นเพื่อวางรากฐานในด้านความช่วยเหลือ
คำชี้แจงของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (23 ต.ค.) โจเซฟ บอร์เรล ประธานด้านนโยบายต่างประเทศของอียู คาดหมายว่าบรรดาผู้นำของกลุ่มจะสนับสนุนเสียงเรียกร้องสำหรับการหยุดยิง เพื่อเปิดทางส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าสู่ฉนวนกาซา
"ผมเชื่อว่าแนวคิดหยุดยิงด้านมนุษยธรรม เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการไปถึงของความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนที่ไร้ถิ่นพักอาศัยจะได้มีที่พักพิง เป็นบางอย่างที่เหล่าผู้นำจะสนับสนุน" บอร์เรล เปิดเผยกลังจากพูดคุยกับบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศอียูในลักเซมเบิร์ก
(ที่มา : เอเอฟพี)