อิบราฮิม ไรซี ประธานาธิบดีอิหร่านเตือนในวันพุธ (18 ต.ค.) "เปลวไฟแห่งระเบิดของสหรัฐฯ และอิสราเอล" จะย้อนกลับไปแผดเผาอิสราเอลเร็วๆ นี้ ตามหลังเหตุโจมตีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในฉนวนกาซา คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปราว 500 คน กระตุ้นให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้องออกมาแสดงความเสียใจ พร้อมสั่งคณะทำงานรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงยกเลิกการเยือนจอร์แดนกะทันหัน
"เปลวไฟแห่งระเบิดของสหรัฐฯ-อิสราเอล ที่ถูกทิ้งลงใส่เหยื่อผู้ได้รับบาดเจ็บปาเลสไตน์ ณ โรงพยาบาลในฉนวนกาซา ในเย็นวันนี้ อีกไม่นานมันจะแผดเผาพวกไซออนิสต์" ไรซีกล่าว ตามรายรายงานของสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ็น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฮามาสกล่าวหาว่ากองทัพอิสเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่โรงพยาบาลแห่งนี้ แต่ทางกองทัพอิสราเอล อ้างว่ามันมีต้นตอจากจรวดลูกหลงที่ยิงออกมาโดยพวกนักรบญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์
ก่อาหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ในวันอังคาร (17 ต.ค.) กล่าวว่าเขารู้สึกขุ่นเคืองต่อเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในฉนวนกาซา ที่สังหารชีวิตผู้คนไปราว 500 ราย พร้อมเผยว่าได้สั่งการให้คณะทำงานด้านความมั่นคงแห่งชาติรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น
"ผมขุ่นเคืองและเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลอัล อาห์ลี อาหรับ ในกาซา ซึ่งเป็นผลให้เกิดความสูญเสียอันน่าสยดสยอง" ไบเดน กล่าวระหว่างออกเดินทางไปอิสราเอล "สหรัฐฯ ยืนหยัดอย่างแจ่มแจ้งต่อการปกป้องชีวิตพลเรือนระหว่างความขัดแย้ง และเราเศร้าโศกที่พวกคนไข้ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และผู้บริสุทธิ์อื่นๆ ต้องมาเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้"
ความพยายามผลักดันทางการทูตในตะวันออกกลางของไบเดน ต้องมีอันสะดุดลงตั้งแต่ยังไม่เริ่มขึ้นในวันอังคาร (17 ต.ค.) เมื่อโปรแกรมเดินทางเยือนจอร์แดนต้องถูกยกเลิก ตามหลังเหตุโจมตีโรงพยาบาลในฉนวนกาซา
เวลานี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ วัย 80 ปี จะเดินทางมุ่งหน้าไปหาพันธมิตรอย่างอิสราเอลแต่เพียงชาติเดียว เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนรัฐยิว ตามหลังเหตุโจมตีนองเลือดของพวกฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
โปรแกรมเดินทางเยือนของไบเดน ถูกมองมาตลอดว่าเป็นเดิมพันที่เสี่ยง เนื่องจากเขาต้องสร้างสมดุลระหว่างการสนับสนุนอิสราเอล กับความพยายามหลีกเลี่ยงหายนะด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา และป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลายสู่ระดับภูมิภาค
แรกเริ่มเดิมที ข่าวคราวเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่โรงพยาบาล ซึ่ง ฮามาส กล่าวโทษว่าเป็นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ส่วนอิสราเอลอ้างว่าเป็นจรวดลูกหลงที่ยิงออกมาโดยพวกนักรบในกาซา ได้โหมกระพือการคาดเดากันไปต่างๆ ว่า ไบเดน จะยกเลิกกำหนดการเยือนตะวันออกกลางหรือไม่
แม้ท้ายที่สุดแล้ว ไบเดน จะตัดสินใจเดินทางตามกำหนดเดิม แต่ระหว่างที่เขาก้าวขึ้นบันไดเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันนั้น ทาง จอร์แดน แถลงว่าแผนการประชุมซัมมิต 4 ฝ่าย กับ ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน และประธานาธิบดีอียิปต์ ได้ถูกยกเลิกไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางทำเนียบขาวเปิดเผยว่าประธานาธิบดีไบเดน ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ในทันทีในวันอังคาร (17 ต.ค.) ตามหลังเหตุโจมตีนองเลือดถล่มโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในฉนวนกาซา
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า เขารู้สึกสยอดสยองที่ผู้คนหลายร้อยรายต้องมาจบชีวิตลงในเหตุโจมตีโรงพยาบาลในกาซา "โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ได้รับการปกป้องภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ"
ด้าน โฟลเคอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า เหตุโจมตีโรงพยาบาลในฉนวนกาซา เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้โดยสิ้นเชิง และยืนยันว่าต้องนำตัวผู้ก่อการมาลงโทษ "ผมพูดอะไรไม่ออกเลย" เขากล่าว
"ผู้คนหลายร้อยชีวิตถูกฆ่าอย่างน่าสยดสยองในเหตุโจมตีโรงพยาบาลอัล อาห์ลี อาหรับ ในฉนวนกาซา ในนั้นรวมทั้งคนไข้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและครอบครัวที่หาทางลี้ภัยทั้งในและรอบโรงพยาบาล มันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง"
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)