xs
xsm
sm
md
lg

เป็นหนึ่งเดียวกัน! สหรัฐฯ ส่งสัญญาณหนุนอิสราเอลเต็มกำลัง หลังรัฐยิวระดมพล 3 แสนตั้งท่าบุกฉนวนกาซา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ส่งสารอันเข้มแข็งแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันถึง เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลในวันพฤหัสบดี (12 ต.ค.) ระหว่างที่เขาเปิดฉากทัวร์ตะวันออกกลาง ตามหลังอิสราเอลประกาศทำลายล้างฮามาส แก้แค้นเหตุโจมตีนองเลือดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่รัฐมนตรีกลาโหม ก็เน้นย้ำเช่นกันว่า วอชิงตันไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใดๆ ในแนวทางที่อิสราเอล สามารถใช้อาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐฯ

นอกจากอิสราเอลแล้ว บลิงเคน ยังมีแผนเดินทางเยือนพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ในภูมิภาค ทั้งกาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งบางส่วนในนั้นมีอิทธิพลเหนือพวกฮามาส กลุ่มนักรบปาเลสไตน์ที่เปิดฉากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (7 ต.ค.) ถือเป็นการทัวร์ตะวันออกกลางครั้งยืดยาวที่สุดของ บลิงเคน นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2021

ตามหลังทริปของ บลิงเคน ทาง ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนอิสราเอลเช่นกันในวันศุกร์ (13 ต.ค.) ในนั้นจะมีการพบปะกับรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐบาลฉุกเฉินของอิสราเอล จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อเมริกาในวันพฤหัสบดี (12 ต.ค.)

ก่อนหน้าการเดินทางเยือน ออสติน ให้สัมภาษณ์ว่า วอชิงตันไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใดๆ ในแนวทางที่อิสราเอลสามารถใช้อาวุธที่สหรัฐฯ มอบให้ "นี่คือกองทัพมืออาชีพ นำโดยผู้นำมืออาชีพ และเราหวังว่าพวกเขาจะทำในสิ่งที่ถูกต้องในปฏิบัติการของพวกเขา" รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุ

ความเห็นนี้มีขึ้นหลังจากมีรายงานว่า อิสราเอล ได้เตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ที่จะเปิดฉากรุกรานทางภาคพื้นดินแดนปาเลสไตน์ ตามหลังเหตุโจมตีเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับฉายาว่า 9/11 ของอิสราเอล

อิสราเอล ประกาศทำลายล้างแก้แค้นกลุ่มฮามาส สำหรับเหตุโจมตีเล่นงานรัฐยิวครั้งนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิว มีการเรียกระดมพลจำนวนถึง 300,000 นาย และระดมรถถังตามแนวชายแดน ติดกับฉนวนกาซาของชาวปาเลสไตน์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฮามาส ในวันพฤหัสบดี (12 ต.ค.) ท่ามกลางความคาดหมายว่าจะมีการเปิดปฏิบัติการจู่โจมทางภาคพื้น สถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายถือว่าร้ายแรงที่สุดในภูมิภาคในรอบหลายปี

"คุณอาจเข้มแข็งพอที่จะปกป้องตัวเองได้ด้วยตัวคุณเอง แต่ตราบใดที่อเมริกายังอยู่ คุณจะไม่มีวันต้องทำเช่นนั้น เราจะอยู่ที่นี่เสมอ อยู่เคียงข้างคุณ" บลิงเคน บอกกับเนทันยาฮู

กระนั้นเขาเรียกร้องให้ อิสราเอลอดทนอดกลั้นในขณะที่พวกเขาโจมตีตอบโต้ฮามาสในฉนวนกาซา และใช้หนทางต่างๆ หลีกเลี่ยงความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับพลเรือน ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัวแยกรัฐบาลประชาธิปไตยแตกต่างจากกลุ่มต่างๆ อย่างเช่นพวกฮามาส ที่เล็งเป้าหมายเล่นงานพลเรือน ในแนวทางที่ไร้มนุษยธรรมที่สุด "มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใช้ทุกมาตรการป้องกันไว้ก่อนเท่าที่จะเป็นไปได้ ในการหลีกเลี่ยงก่ออันตรายแก่ชีวิตพลเรือน" บลิงเคน กล่าว

วอชิงตัน เปิดเผยว่ามีชาวอเมริกาอย่างน้อย 25 ราย เสียชีวิตในเหตุโจมตีอิสราเอลของฮามาส และเชื่อว่ามีจำนวนมากถูกจับเป็นตัวประกันพาไปยังฉนวนกาซา ทั้งนี้ บลิงเคน เปิดเผยว่า สตีฟ กิลเลย รองผู้แทนทูตพิเศษของสหรัฐฯ ด้านกิจการตัวประกันที่เดินทางร่วมคณะไปด้วย จะปักหลักอยู่ในอิสราเอล เพื่อสนับสนุนความพยายามช่วยเหลือปลดปล่อยตัวประกันเหล่านั้น

หลังจากพบปะกับเนทันยาฮู รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้มุ่งหน้าสู่จอร์แดนในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (12 ต.ค.) เพื่อพบปะกับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ และมาห์มูด อับบาส ประธานองค์การบริหารปาเลสไตน์

บลิงเคน บอกว่า อิสราเอลมีภาระหน้าที่ในการป้องกันตนเอง ในหนทางหนึ่งเพื่อรับประกันว่าการโจมตีข้ามชายแดนจะไม่มีวันเกิดขึ้นซ้ำอีก และบอกว่าเขาพูดคุยกับ เนทันยาฮู เกี่ยวกับแนวทางที่จะทำเช่นนั้น

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุต่อว่าในขณะที่การป้องกันตนเองของอิสราเอลจำเป็นต้องมีวิวัฒนาการ ในส่วนของวอชิงตันก็จะทำงานร่วมกับสภาคองเกรส เพื่อรับประกันว่าวิวัฒนาการด้านการป้องกันตนเองของอิสราเอลจะเป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งนี้รัฐบาลของไบเดน มีแผนยื่นคำร้องขอเงินเพิ่มเติมจากสภาคองเกรสในสัปดาห์หน้า

กาซา เฉียดใกล้หายนะด้านมนุษยธรรมทุกขณะในวันพฤหัสบดี (12 ต.ค.) ท่ามกลางตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเสบียงสำคัญร่อยหรอเหลืออยู่ในระดับต่ำ หลังจาก อิสราเอล ทำการปิดล้อมฉนวนแห่งนี้ ทั้งนี้ อิสราเอลประกาศกร้าวว่าจะไม่หยุดพักด้านมนุษยธรรม จนกว่าตัวประกันทุกคนจะได้รับการปล่อยตัว

ความพยายามจำกัดวงความขัดแย้งคือเป้าหมายสูงสุดของสหรัฐฯ และบลิงเคน ได้พูดคุยกับบรรดาพันธมิตรต่างๆ ในภูมิภาค ซึ่งมีการติดต่อกับอิหร่านและกลุ่มต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ขอให้พวกเขาแนะนำให้เตหะรานอยู่ห่างจากความขัดแย้ง

(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น