ราคาน้ำมันทรงตัวในวันอังคาร (17 ต.ค.) นักลงทุนเฝ้ารอความพยายามทางการทูตของสหรัฐฯ และการเดินทางเยือนอิสราเอลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่จะป้องกันความขัดแย้งในตะวันออกกลางไม่ให้ลุกลาม ส่วนวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆและทองคำขยับขึ้นเล็กน้อยจากข้อมูลค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดหมาย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน คงที่ ปิดที่ 86.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ ปิดที่ 89.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ไบเดน จะเดินทางเยือนอิสราเอลในวันพุธ (18 ต.ค.) และจะหาหนทางสร้างความสมดุล ระหว่างการแสดงจุดยืนสนับสนุนอิสราเอลทำสงครามกับฮามาส กับความพยายามระดมเสียงสนับสนุนจากพวกรัฐอาหรับช่วยป้องกันความขัดแย้งไม่ให้ลุกลามบานปลายสู่ระดับภูมิภาค หลังจากก่อนหน้านี้ อิหร่านเตือนถึงความเป็นไปได้ของการชิงโจมตีก่อน โดยพันธมิตร "แนวร่วมต่อต้าน" ของพวกเขา ที่ในนั้นรวมไปถึงขบวนการเคลื่อนไหวฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
"ราคาน้ำมันทรงตัว เนื่องจากนักลงทุนทางพลังงานเฝ้ารอดูว่าความพยายามทางการทูตของสหรัฐฯ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ในการป้องกันความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาส จากการขยายวงสู่สงความระดับภูมิภาค" เอ็ดเวิร์ด มายท นักวิเคราะตลาดระดับอาวุโส ณ สถาบัน OANDA กล่าว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในกรอบแคบๆ ในวันอังคาร (17 ต.ค.) นักลงทุนตรึกตรึกข้อมูลค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดหมาย และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ในนั้นรวมถึงเหล่าสถาบันการเงินรายใหญ่
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 13.11 จุด (0.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,997.65 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.43 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,373.20 จุด แนสแดค ลดลง 34.24 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,533.75 จุด
ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดหมายในเดือนที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 0.7% อ้างอิงข้อมูลจากรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม หากว่าเศรษฐกิจยังคงร้อนแรงเช่นนี้
อีกด้านหนึ่งสถาบันการเงินโกลด์แมน แซคส์ รายงานมีรายได้เกินคาดหมาย แต่ขณะเดียวกันจะพบเห็นกำไรลดลงมากกว่า 30% ในไตรมาสที่ 3
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (17 ต.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย หลังตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดหมายไว้ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,935.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)