ราคาน้ำมันขยับลงมากกว่า 1 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (16 ต.ค.) จากความคาดหมายสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา อาจบรรลุข้อตกลงเร็วๆ นี้ในการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานการส่งออกทางพลังงานของฝ่ายหลัง ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกและทองคำขยับลง นักลงทุนมองในแง่ดีเกี่ยวกับรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ที่เตรียมเผยแพร่ออกมา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.03 ดอลลาร์ ปิดที่ 86.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 89.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รัฐบาลเวเนซุเอลา และฝ่ายค้านจะคืนสู่การเจรจาทางการเมืองในสัปดาห์นี้ หลังจากว่างเว้นไปนานเกือบ 1 ปี ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นท่ามกลางข้อมูลของแหล่งข่าวที่บอกว่า สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา แลกกับเข้าสังเกตการณ์ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในเวเนซุเอลาในปีหน้า
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางจะขยายวงกว้าง อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ (16 ต.ค.) นักลงทุนมองว่าการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับฮามาส ดูเหมือนจะไม่คุกคามอุปทานน้ำมันในระยะสั้น
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแรงในวันจันทร์ (16 ต.ค.) เมินความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ได้แรงหนุนจากมุมมองในแง่บวกของนักลงทุนเกี่ยวกับฤดูกาลรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่เริ่มขึ้นแล้ว
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 314.25 จุด (0.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,984.54 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 45.85 จุด (1.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,373.63 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 160.75 จุด (1.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,567.98 จุด
แม้นักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิดต่อสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซา แต่ดูเหมือนจะใช้จุดยืนยอมเสี่ยงมากกว่าในวันจันทร์ (16 ต.ค.) และปัจจัยนี้เองที่ฉุดให้ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำปิดในแดนลบ
โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 7.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,934.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเจนซี)