xs
xsm
sm
md
lg

การโจมตีของฮามาสคราวนี้ ชวนให้รู้สึกสยองย้อนนึกไปถึง ‘สงครามอาหรับ-อิสราเอลปี 1973’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โดฟ แวกซ์แมน ***


รถบรรทุกทหารของอียิปต์ข้ามสะพานชั่วคราวที่สร้างคร่อมคลองสุเอซเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 1973 ขณะเปิดฉาก “สงครามยม กีปปูร์”  (ภาพจากวิกิพีเดีย)
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Hamas assault eerily echoes 1973 Arab-Israeli war
By DOV WAXMAN
09/10/2023

การโจมตีของฮามาสในครั้งนี้ ลงมือกระทำอย่างมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ ในวาระครบรอบ 50 ปีกับอีก 1 วันของการจู่โจมแบบเซอร์ไพรส์ทำนองเดียวกัน ซึ่งเป็นการเปิดฉาก “สงครามยมกิปปูร์” ปี 1973 ที่ก่อให้เกิดความวิบัติใหญ่โต

ความคล้ายคลึงกันจำนวนมากเป็นสิ่งที่ชวนให้รู้สึกตื่นตะลึง และแน่นอนทีเดียวว่ามันไม่ใช่ความบังเอิญ

เวลาผ่านไป 50 ปีกับอีก 1 วันพอดิบพอดี หลังจากที่เคยเผชิญกับการโจมตีทางทหารแบบมีการร่วมมือประสานงานกันของ 2 ชาติเพื่อนบ้านอันได้แก่ อียิปต์ และซีเรีย ชนิดไม่ทันระวังตั้งตัวโดยสิ้นเชิง [1] ตอนนี้อิสราเอลก็ประสบกับความเซอร์ไพรส์แบบสุดๆ อีกคำรบหนึ่ง

รั้วกั้นพรมแดนอิสราเอล-ฉนวนกาซา ถูกฮามาสพังเป็นช่องทางกว้างขวางเมื่อเช้าตรู่วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม เปิดทางให้บรรดานักรถขับรถตะลุยเข้าไปโจมตีดินแดนภาคใต้ของอิสราเอล (ภาพถ่ายจากคลิปที่มีผู้เผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย)
ช่วงเวลาเช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2023 พวกนักรบของกลุ่มฮามาสได้บุกรุกรานเข้าไปในภาคใต้ของอิสราเอลทั้งโดยทางพื้นดิน ทางทะเล และทางอากาศ [2] และยิงจรวดหลายพันลูกลึกเข้าไปในประเทศนี้ ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ชาวอิสราเอลหลายร้อยคนถูกฆ่าตาย [3] ถูกจับเป็นเชลยจำนวนหนึ่ง และมีการประกาศเข้าสู่ภาวะสงคราม [4] การตอบโต้อย่างเกรี้ยวกราดดุร้ายของฝ่ายอิสราเอลนับถึงเวลานี้ได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ในดินแดนฉนวนกาซาไปหลายร้อยคนแล้ว [5] และแน่ใจได้ว่าพวกเขาจะต้องตายไปอีกมากมายยิ่งกว่านี้นักหนาก่อนที่สงครามนี้จะยุติลง

เพราะว่ามันคือสงคราม หลังจากกลุ่มฮามาสเริ่มการโจมตีและมีการรายงานจำนวนชาวอิสราเอลที่เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลก็ออกมาประกาศว่า ประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะสงคราม [6] แบบเดียวกับที่เคยอยู่ในภาวะเช่นนี้เมื่อ 50 ปีก่อน

และความคล้ายคลึงกันระหว่างเหตุการณ์ในอดีตและในปัจจุบันทั้งสองนี้ ก็ไม่ได้หมดลงเพียงแค่นี้

สงครามทั้ง 2 ครั้งต่างเริ่มต้นขึ้นด้วยการที่อิสราเอลถูกโจมตีแบบไม่ได้คาดคิดมาก่อนในวันศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิว ในปี 1973 นั้น มันคือวันยม คีปปูร์ (Yom Kippur) วันแห่งการอ้อนวอนขอพระเจ้าไถ่บาปของชาวยิว สำหรับคราวนี้มันคือวันซิมชัต โตราห์ (Simchat Torah) วันที่ชาวยิวเฉลิมฉลองวาระครบรอบการอ่านคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ (โตราห์) [7]

ฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบชาวปาเลสไตน์ที่มีอำนาจควบคุม [8] เหนือดินแดนฉนวนกาซา [9] อันมีประชากรพำนักอาศัยกันหนาแน่นและอยู่ประชิดติดกับอิสราเอล ดูเหมือนวาดหวังที่จะส่งข้อความอย่างเดียวกันกับที่อียิปต์และซีเรียเคยส่งออกมาในเดือนตุลาคมปี 1973 นั่นคือ พวกเขาจะไม่ยอมรับสถานะเดิม และแสนยานุภาพทางทหารของอิสราเอลจะไม่สามารถทำให้ชาวอิสราเอลมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย

สงครามเมื่อปี 1973 ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นว่ามันเป็นชั่วเวลาแห่งการแบ่งยุคแบ่งสมัย [10] ไม่เพียงสำหรับการสู้รบขัดแย้งระหว่างชาวอาหรับกับชาวอิสราเอลเท่านั้น แต่ยังสำหรับการเมืองของอิสราเอลอีกด้วย สงครามครั้งนี้จะบังเกิดผลในทำนองเดียวกันหรือไม่?

ไม่ทันระวังตั้งตัวทั้งสองครั้ง

แน่นอนทีเดียวว่าการระเบิดขึ้นมาของสงครามอย่างฉับพลันทำให้ชาวอิสราเอลตกอยู่ในภาวะช็อกอย่างล้ำลึกอีกคำรบหนึ่ง [11] แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 50 ปีที่แล้ว สงครามหนนี้ก็เช่นเดียวกับคราวที่เกิดในปี 1973 กำลังถูกประทับตราว่าเป็นความบกพร่องล้มเหลวด้านข่าวกรองครั้งมโหฬารยิ่ง [12]

ถึงแม้ฝ่ายข่าวกรองทหารของอิสราเอลได้เคยเตือนรัฐบาล [13] ว่า พวกศัตรูของประเทศนี้เชื่อว่าอิสราเอลมีจุดอ่อนเปราะ ทว่าสถาบันข่าวกรองอิสราเอลก็ไม่ได้คาดคิดกันหรอกว่าฮามาสจะเปิดฉากโจมตี

ตรงกันข้าม การประเมินด้านข่าวกรองมีผลออกมาว่า ฮามาสมีความสนใจมากที่สุดกับเรื่องการปกครองดินแดนฉนวนกาซา และไม่ต้องการที่จะทำสงครามกับอิสราเอล อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่ช่วงเวลานี้

ข้อสมมติฐานที่เชื่อถือกันก็คือ ฮามาสจะหลีกเลี่ยงไม่เปิดฉากทำการโจมตีขนาดใหญ่ๆ ใส่อิสราเอล ด้วยความหวั่นกลัวว่าการตอบโต้แก้แค้นอย่างชนิดไม่มีการบันยะบันซึ่งมีหวังจะออกมาจากอิสราเอลนั้น จะยิ่งสร้างความวิบัติหายนะเพิ่มมากขึ้นให้แก่กาซา ดินแดนแคบๆ ที่ถูกรายล้อมด้วยประเทศที่ไม่มีความเป็นมิตรแห่งนี้ เป็นถิ่นพำนักอาศัยของชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคน ซึ่งจำนวนมากมีระดับชีวิตความเป็นอยู่อย่างยากไร้ [14] และยังไม่ทันฟื้นตัวขึ้นมาจากการสู้รบใหญ่รอบสุดท้ายที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2021 ด้วยซ้ำ [15]

ตรงกันข้าม สถาบันข่าวกรอง และพวกนักวิเคราะห์จำนวนมากต่างเชื่อว่า ฮามาสจะเลือกใช้วิธีส่งออกความรุนแรงของชาวปาเลสไตน์ไปที่เวสต์แบงก์ (West Bank) ดินแดนอีกแห่งหนึ่งของชาวปาเลสไตน์ซึ่งตกอยู่ใต้การยึดครองของกองทหารอิสราเอลโดยตรง แถมการกระทำเช่นนี้ยังอาจช่วยเหลือฮามาสในการบ่อนทำลายสั่นคลอน [16] องค์การบริหารปาเลสไตน์ (Palestinian Authority) ที่นำโดยกลุ่มปรปักษ์ทางการเมืองของฮามาส ซึ่งกำลังทำหน้าที่ปกครองบริหารที่นั่นอย่างอ่อนแอและไม่เป็นที่นิยมของประชาชน [17]

แต่แล้วผลประเมินทางข่าวกรองของอิสราเอลในคราวนี้ก็ถูกความเป็นจริงพิสูจน์ยืนยันให้เห็นว่ามีความผิดพลาดอย่างร้ายแรงสาหัสยิ่ง ทำนองเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้าการปะทุขึ้นของสงครามปี 1973 [18] ในเวลานั้นก็เช่นเดียวกับในเวลานี้ พวกศัตรูของอิสราเอลไม่ได้ถูกยับยั้งเอาไว้ด้วยความเหนือล้ำกว่าในทางทหารของอิสราเอลแต่อย่างใด

ฝ่ายข่าวกรองอิสราเอลไม่เพียงวินิจฉัยผิดพลาดมากเกี่ยวกับความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวของฝ่ายข้าศึกในการเข้าสงครามเท่านั้น แต่ยังล้มเหลว --ทั้งในปี 1973 และในเวลานี้ – ในการตระหนักรับรู้ถึงการเตรียมการต่างๆ ของปรปักษ์ของพวกเขาอีกด้วย

ยิ่งในครั้งนี้ ความล้มเหลวเช่นว่านี้ต้องถือว่ายิ่งชัดเจนเตะตามากกว่านักหนา เมื่อพิจารณาจากสมรรถนะในการรวบรวมข่าวกรองได้อย่างกว้างขวางและละเอียดประณีตของอิสราเอล ฮามาสต้องวางแผนสำหรับการโจมตีคราวนี้อย่างระมัดระวังมาหลายเดือนแล้ว [19] โดยต้องกระทำชนิดที่เรียกได้ว่าอยู่ใต้จมูกของอิสราเอล ดังนั้นจึงไม่มีข้อสงสัยเลยว่า ครั้งนี้เป็นความบกพร่องพลาดท่าทางข่าวกรองที่เลวร้ายที่สุดของอิสราเอลนับตั้งแต่สงครามปี 1973 เป็นต้นมา

ทว่ามันไม่ใช่เพียงแค่ความล้มเหลวทางข่าวกรอง มันยังเป็นความล้มเหลวทางการทหารอีกด้วย ในเมื่อเห็นกันได้อย่างชัดเจนว่า กองทัพอิสราเอลที่ใช้ชื่อว่า กองกำลังอาวุธป้องกันอิสราเอล (Israel Defense Forces หรือ IDF) ไม่ได้มีการเตรียมพร้อมสำหรับรับมือกับการโจมตีที่มีขนาดขอบเขตเช่นนี้ – อันที่จริงแล้ว หน่วยทหารส่วนใหญ่ของ IDF ถูกส่งออกไปประจำการอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ [20]

ทหารอิสราเอลเดินผ่านด้านหน้าของสถานีตำรวจอิสราเอลแห่งหนึ่งทางภาคใต้ของประเทศเมื่อวันอาทิตย์ (8 ต.ค.) สถานีตำรวจที่เมืองสเดร็อต (Sderot) แห่งนี้ได้รับความเสียหายยับเยินจากการที่กลุ่มนักรบฮามาสเข้าไปช่วยพวกเพื่อนๆ ของตนที่ถูกคุมขังอยู่ข้างใน ในตอนที่พวกเขายกกำลังบุกจากกาซาเข้าอิสราเอลในวันเสาร์ (7 ต.ค.)
เป็นความจริงที่ว่าพวกผู้บังคับบัญชาระดับท็อปของ IDF ได้เตือน เนทันยาฮู [21] ครั้งแล้วครั้งเล่าว่าความพร้อมสู้รบทางการทหารของกองทัพได้ถูกบั่นทอนลงไป จากกระแสเหตุการณ์ [22] ที่พวกกองกำลังสำรองของอิสราเอลกำลังปฏิเสธไม่ยอมรับการเรียกตัวเข้ารับราชการทหาร [23] เพื่อเป็นการแสดงการประท้วงความพยายามของรัฐบาลเนทันยาฮู ที่จะเดินหน้าแก้ไขปฏิรูประบบงานยุติธรรมครั้งใหญ่

กระนั้นก็ตามที IDF ยังคงมีความมั่นใจว่ากระบวนการตั้งแนวป้อมค่ายเพื่อการป้องกันของพวกเขา –โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวกำแพงไฮเทคราคาแพง ที่ถูกสร้างขึ้นมารายล้อมรอบๆ ฉนวนกาซา [24] — จะสามารถป้องกันพวกนักรบฮามาสไม่ให้บุกเข้าไปในอิสราเอลได้ อย่างที่ล่าสุดก็กระทำสำเร็จมาแล้วในยับยั้งความพยายามเข้าโจมตีของฮามาสเมื่อเดือนพฤษภาคม 2021

ทว่าก็เหมือนๆ กับสิ่งที่เรียกกันว่า แนวป้องกันบาร์-เลฟ (Bar-Lev defensive line) ตามแนวคลองสุเอซ [25] ล้มเหลวไม่สามารถหยุดยั้งกองทหารอียิปต์ยกทัพข้ามคลองดังกล่าวในปี 1973 นั่นแหละ แนวกำแพงกาซาก็ไม่สามารถสกัดกั้นพวกนักรบฮามาสได้ โดยมันถูกอ้อมผ่าน และถูกรถบุลโดเซอร์ดันพังแล้วแล่นข้ามไปอย่างง่ายๆ [26]

เริ่มต้นเกมของการกล่าวโทษใครต้องรับผิดชอบ

แน่ใจได้เลยว่าภายหลังสงครามคราวนี้แล้ว จะต้องมีเกมแห่งการกล่าวโทษกันว่าใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับความผิดพลาดฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นมา เหมือนกับเมื่อครั้งหลังจากสงครามปี 1973 บางทีอาจจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นมา แบบเดียวกับภายหลังปี 1973 –ซึ่งก็คือคณะกรรมการอากรานัต (Agranat Commission) [27] — ที่ตีพิมพ์เผยแพร่รายงานอันมีเนื้อหาเจ็บแสบเสียดแทง โดยชี้นิ้วประณามอย่างหนักแน่นมั่นคงไปยังฝ่ายทหารและสถาบันข่าวกรองของอิสราเอล

ทว่าสำหรับสงครามครั้งนี้ มันไม่น่าจะใช่ฝ่ายทหารและสถาบันข่าวกรองหรอกที่สมควรถูกประณามหนักที่สุด แต่มันเป็นสถาบันทางการเมืองของอิสราเอล –และเหนือกว่าใครๆ ทั้งหลายทั้งปวง ก็คือ เนทันยาฮู ซึ่งเป็นผู้นำพาประเทศชาติแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2009 โดยมีว่างเว้นเพียงแค่ 1 ปีในช่วงระหว่างปี 2021-2022 เท่านั้น

อันที่จริง สงครามปี 1973 ก็สืบเนื่องมาจากความล้มเหลวทางการเมืองด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่แค่เพียงเฉพาะความล้มเหลวทางการข่าวกรอง ทั้งนี้ คณะผู้นำทางการเมืองในเวลานั้นของอิสราเอล ซึ่งที่สำคัญได้แก่ นายกรัฐมนตรีโกลดา แมร์ (Golda Meir) และโมเช ดายัน (Moshe Dayan) รัฐมนตรีกลาโหมของเธอคือตัวการใหญ่ที่สุดซึ่งสมควรถูกประณาม เพราะในช่วงหลายๆ ปีก่อนหน้าสงครามครั้งนั้น พวกเขาได้แสดงความรังเกียจการทาบทามเกี้ยวพาทางการทูต [28] จากประธานาธิบดี อันวา ซาดัต (Anwar Sadat) ของอียิปต์ โดยที่รัฐบาลอิสราเอลมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะยังคงครอบครองบางส่วนของคาบสมุทรไซนาย (Sinai peninsula) ซึ่งอิสราเอลยึดได้ในสงครามปี 1967 เอาไว้ [29] ถึงแม้ราคาที่ต้องจ่ายคือไม่สามารถมีสันติภาพกับอียิปต์

ทำนองเดียวกัน เนทันยาฮู ก็เพิกเฉยละเลยความพยายามของทางอียิปต์เมื่อเร็วๆ นี้ [30] ที่จะเป็นคนกลางในการทำข้อตกลงหยุดยิงระยะยาวระหว่างอิสราเอล ฮามาส และกลุ่มอิสลามญิฮัดปาเลสไตน์ (Palestinian Islamic Jihad) ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบอิสลามิสต์เช่นเดียวกับฮามาส และรัฐบาลแนวทางขวาจัดชุดปัจจุบันของอิสราเอล [31] ก็เลือกที่จะครอบครองดินแดนเวสต์แบงก์ที่ยึดครองอยู่เอาไว้ต่อไป แทนที่จะแสวงหาหนทางความเป็นไปได้สำหรับการตกลงสร้างสันติภาพกับฝ่ายปาเลสไตน์

ยิ่งกว่านั้น รัฐบาลเนทันยาฮูยังเอาแต่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับความพยายามที่จะลดอำนาจและความเป็นอิสระของศาลสูงสุดอิสราเอล [32] อันเป็นความเคลื่อนไหวซึ่งไม่เป็นที่นิยมชมชื่นของประชาชนกว้างขวางมากมาย เนื่องจากดูเหมือนมีจุดมุ่งหมายเพื่อจะเพิกถอนสิ่งที่อาจเป็นอุปสรรคเครื่องกีดขวางประการหนึ่งในแผนการผนวกรวมเอาเวสต์แบงก์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ ความปั่นป่วนวุ่นวายภายในประเทศและความแตกแยกอย่างร้าวลึกซึ่งข้อเสนอปรับปรุงยกเครื่องระบบยุติธรรมนี้ก่อให้เกิดขึ้นในอิสราเอล แทบจะเป็นการแน่นอนทีเดียวว่าเป็นเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งซึ่งทำให้ฮามาสตัดสินใจลงมือโจมตีในตอนนี้เลย

พิจารณากันในแง่มุมกว้างขวางมากยิ่งขึ้น จากการโจมตีล่าสุดนี้มันก็เป็นที่ชัดเจนว่า ยุทธศาสตร์ของเนทันยาฮูที่มุ่งปิดล้อมและป้องกันฮามาสนั้น ได้ประสบความล้มเหลวอย่างชนิดก่อให้เกิดความหายนะ มันเป็นความหายนะสำหรับชาวอิสราเอล โดยเฉพาะผู้ที่พำนักอาศัยในบริเวณภาคใต้ของประเทศ และเป็นความหายนะมากยิ่งขึ้นกว่านั้นเสียอีกสำหรับบรรดาพลเรือนชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในกาซา

การบังคับใช้มาตรการปิดล้อมกาซามายาวนานเป็นเวลาถึง 16 ปี [33] ซึ่งทำให้เศรษฐกิจของดินแดนแห่งนี้กลายเป็นอัมพาต และมีผลในทางเป็นจริงเหมือนกับการขังคุกผู้คน 2 ล้านคนซึ่งพำนักอาศัยกันอยู่ที่นี่ ยังคงไม่สามารถทำให้ฮามาสยอมก้มหัวศิโรราบ

ตรงกันข้าม อำนาจของฮามาสในการควบคุมเหนือกาซา ซึ่งดำรงอยู่ได้ยืนยาวเนื่องจากมีการกดขี่เป็นตัวช่วย กลับมีแต่กระชับแน่นหนายิ่งขึ้น บรรดาพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่อยู่ในทั้งสองฟากของเขตชายแดนต้องจ่ายในราคาแพงลิ่วสำหรับความล้มเหลวคราวนี้

จากผลพวงของสงครามเมื่อปี 1973 นายกฯแมร์ถูกบังคับให้ต้องลาออก [34] และอีกไม่กี่ปีต่อมา พรรครัฐบาลคือ พรรคเลเบอร์ (Labor Party) ซึ่งได้ครองอำนาจมาอย่างยาวนานในรูปโฉมต่างๆ หลายหลาก ตั้งแต่ที่ประเทศก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 1948 ก็ได้พ่ายแพ้ให้แก่พรรคลิคุด (Likud Party) ซึ่งเป็นพวกฝ่ายขวาของ เมนาเคม เบกิน (Menachem Begin) ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 1977 [35]

นี่คือช่วงเวลาแห่งการแปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งในการเมืองภายในประเทศของชาวอิสราเอล ซึ่งบังเกิดขึ้นมาได้ที่สำคัญแล้วเนื่องจากสาธารณชนสูญเสียความเชื่อมั่นในพรรคเลเบอร์ที่ในตอนนั้นเป็นพรรคซึ่งมีอำนาจอิทธิพลเหนือกว่าใครๆ ทั้งหมด โดยเป็นผลลัพธ์ประการหนึ่งของสงครามปี 1973

ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยตัวเองในคราวนี้อีกหรือไม่? ในที่สุดแล้วสงครามครั้งนี้จะร่ายมนตร์ทำให้การครอบงำเหนือการเมืองอิสราเอลมาอย่างยาวนานของ เนทันยาฮู และพรรคลิคุด ต้องปิดฉากลงหรือไม่? อันที่จริงชาวอิสราเอลส่วนใหญ่เวลานี้ได้หันมาคัดค้าน เนทันยาฮู กันแล้ว [36] จากการผสมผสานกันของเหตุปัจจัยหลายๆ ประการ ทั้งกรณีฉาวโฉ่เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชันมากมายหลายเรื่องซึ่งเกิดขึ้นรายล้อมตัวเขา ความพยายามของเขาที่จะลดชั้นลดระดับอำนาจของฝ่ายตุลาการ และการเอนเอียงไปสู่แนวทางฝ่ายขวาอย่างมากมายสืบเนื่องจากสีสันภายในคณะรัฐบาลผสมของเขา

เบนจามิน เนทันยาฮู ว่าที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ขยับหมวกสกัลคัป (skull cap) ของเขาให้เข้าที่ ภายหลังกล่าวปราศรัยในการประชุมวาระวิสามัญของรัฐสภาอิสราเอล เพื่อลงมติรับรองและให้คณะรัฐบาลชุดใหม่ของเขาสาบานตัวเข้ารับตำแหน่ง ที่นครเยรูซาเลม ในวันที่ 29 ธันวาคม 2022
เวลานี้อาจจะมีชาวอิสราเอลจำนวนเพิ่มขึ้นอีกที่หันมาคัดค้านเขา เนื่องจากเหตุการณ์ถูกฮามาสโจมตีแบบเซอร์ไพรสฺซึ่งสร้างความหายนะอย่างมหาศาลครั้งนี้ แน่นอนทีเดียวว่าเพราะมันเป็นสิ่งที่ขัดแย้งตรงกันข้ามเลยกับภาพลักษณ์ที่ เนทันยาฮู ชอบกล่าวอ้างสร้างให้แก่ตนเองอยู่เสมอว่า เขาคือ “ผู้สร้างความมั่นคง” (Mr.Security) ของอิสราเอล [37]

ไม่ว่าผลลัพธ์ของสงครามครั้งใหม่นี้ ตลอดจนผลสะท้อนสะเทือนทางการเมืองด้านต่างๆ ที่สงครามนี้จะก่อให้เกิดขึ้นมาในอิสราเอล จะเป็นอย่างไรก็ตามที มันก็เป็นที่กระจ่างชัดเจนแล้วว่าการปะทุขึ้นของสงครามครั้งนี้จะเป็นที่จดจำของชาวอิสราเอลไปอีกยาวนาน ด้วยความเศร้าเสียใจและความโกรธแค้นอย่างมากมายมหาศาล ทำนองเดียวกับที่สงครามปี 1973 ยังคงสร้างความรู้สึกเช่นนี้อยู่จวบจนถึงปัจจุบัน

แท้ที่จริงสำหรับชาวอิสราเอลแล้ว บางทีมันอาจจะเป็นบาดแผลที่กรีดลึกลงไปในจิตใจอย่างล้ำลึกยิ่งกว่าสงครามครั้งนั้นเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากในปี 1973 มันป็นสมาชิกของกองทัพซึ่งเป็นผู้รับแรงกดดันอันหนักหน่วงที่สุดของการโจมตีแบบไม่คาดคิดกันมาก่อน แต่ในคราวนี้มันเป็นพลเรือนชาวอิสราเอลซึ่งถูกจับตัวและถูกเข่นฆ่า แล้วยังกระทำบนดินแดนอธิปไตยของอิสราเอลอีกด้วย หากมองกันเฉพาะในแง่มุมที่สำคัญยิ่งยวดนี้ สงครามครั้งนี้ก็ไม่เหมือนกับในคราวปี 1973

โดฟ แวกซ์แมน เป็นศาสตราจารย์มูลนิธิโรซาลินด์ แอนด์ อาร์เธอร์ กิลเบิร์ต ทางด้านอิสราเอลศึกษา (Rosalinde and Arthur Gilbert Foundation Professor of Israel Studies) ณ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตลอสแองเจลิส (University of California, Los Angeles)

(ข้อเขียนนี้มาจากเว็บไซต์ เดอะ คอนเวอร์เซชั่น https://theconversation.com/ โดยสามารถติดตามอ่านข้อเขียนดั้งเดิมชิ้นนี้ได้ที่ https://theconversation.com/hamas-assault-echoes-1973-arab-israeli-war-a-shock-attack-and-questions-of-political-intelligence-culpability-215228)

เชิงอรรถ

[1]https://www.american.edu/sis/news/20231006-50-years-on-explaining-the-yom-kippur-war.cfm
[2] https://apnews.com/article/israel-palestinians-gaza-hamas-rockets-airstrikes-tel-aviv-11fb98655c256d54ecb5329284fc37d2
[3] https://apnews.com/article/israel-palestinians-gaza-hamas-rockets-airstrikes-tel-aviv-ca7903976387cfc1e1011ce9ea805a71
[4] https://apnews.com/live/israel-hamas-war-live-updates
[5]https://www.reuters.com/world/middle-east/israeli-forces-clash-with-hamas-gunmen-after-hundreds-killed-2023-10-08/
[6]https://www.pbs.org/newshour/world/netanyahu-declares-war-on-hamas-after-deadly-surprise-attack-kills-dozens-of-israelis
[7] https://theconversation.com/what-are-the-jewish-high-holy-days-a-look-at-rosh-hashanah-yom-kippur-and-a-month-of-celebrating-renewal-and-moral-responsibility-166079
[8] https://www.bbc.com/news/world-middle-east-67039975
[9]https://www.wsj.com/livecoverage/israel-hamas-gaza-rockets-attack-palestinians/card/what-is-the-gaza-strip-HSEJZUMUnljbF4YSeB1W
[10]https://history.state.gov/milestones/1969-1976/arab-israeli-war-1973
[11]https://www.nbcnews.com/news/world/israel-battles-militants-second-day-hamas-attack-rcna119364
[12]https://www.theguardian.com/world/2023/oct/07/hamas-stealth-attack-will-be-remembered-as-israeli-intelligence-failure-for-the-ages
[13]https://www.timesofisrael.com/military-intelligence-warned-pm-4-times-overhaul-rift-harming-deterrence-report/
[14] https://www.trtworld.com/middle-east/poverty-soars-in-the-palestinian-gaza-strip-51475
[15]https://www.hrw.org/news/2021/08/23/gaza-israels-may-airstrikes-high-rises
[16]https://www.washingtoninstitute.org/policy-analysis/surging-violence-hamas-attempts-reshape-west-banks-political-landscape
[17]https://www.haaretz.com/opinion/2023-06-29/ty-article-opinion/.premium/why-is-the-palestinian-authority-weak-israeli-occupation/00000189-08a0-dae1-afa9-08bd83b50000
[18]https://www.brookings.edu/articles/enigma-the-anatomy-of-israels-intelligence-failure-almost-45-years-ago/
[19] https://www.bbc.com/news/world-middle-east-67041679
[20] https://www.haaretz.com/israel-news/2023-10-08/ty-article/.premium/six-significant-failures-that-lead-to-one-point-collapse-vs-hamas/0000018b-0f15-dfff-a7eb-afdd0bb80000
[21]https://www.timesofisrael.com/military-intelligence-warned-pm-4-times-overhaul-rift-harming-deterrence-report/
[22] https://www.wsj.com/articles/israeli-reservists-start-missing-duty-threatening-military-unity-and-readiness-76df3ade
[23]https://www.reuters.com/world/middle-east/hundreds-israeli-reservists-vow-refuse-service-if-judicial-overhaul-passes-2023-07-19/#:%7E:text=JERUSALEM%2C%20July%2019%20(Reuters),power%20of%20the%20Supreme%20Court.
[24]https://www.realcleardefense.com/articles/2021/04/10/a_closer_look_at_israels_new_high-tech_barrier_772195.html
[25]https://www.globalsecurity.org/military/world/israel/bar-lev-line.htm
[26]https://www.nbcnews.com/video/watch-bulldozer-tears-down-section-of-israel-gaza-border-fence-194649157630
[27]https://archives.mod.gov.il/sites/English/docs/agranat/Pages/AgranatReport.aspx
[28] https://www.latimes.com/opinion/op-ed/la-oe-kipnis-golda-meier-kissinger-20131010-story.html
[29]https://history.state.gov/milestones/1961-1968/arab-israeli-war-1967
[30]https://www.ynetnews.com/magazine/article/bjjtjc3vn
[31]https://www.pbs.org/newshour/world/israel-swears-in-netanyahu-as-prime-minister-most-right-wing-government-in-countrys-history#:%7E:text=JERUSALEM%20(AP)%20%E2%80%94%20Israel%20on,government%20in%20the%20country's%20history.
[32]https://apnews.com/article/israel-judicial-overhaul-netanyahu-d4ebdff08f42b225f7a2a933f7d793f5
[33]https://www.nytimes.com/2023/10/07/world/middleeast/gaza-blockade-israel.html
[34]https://www.nytimes.com/1974/04/11/archives/golda-meir-quits-and-brings-down-cabinet-in-israel-new-election.html#:%7E:text=The%2075%E2%80%90year%E2%80%90old%20Premier,beginning%20of%20the%20October%20war.
[35] https://en.idi.org.il/israeli-elections-and-parties/elections/1977/
[36]https://www.reuters.com/world/middle-east/israels-netanyahu-down-polls-over-judicial-reform-2023-07-26/
[37]https://www.haaretz.com/opinion/2022-08-12/ty-article-opinion/.premium/no-longer-mr-security-netanyahu-reinvents-himself-as-a-social-populist/00000182-8ebd-d9bc-affb-efbfae870000
กำลังโหลดความคิดเห็น