อิสราเอลถล่มเป้าหมายในดินแดนฉนวนกาซาต่อเนื่อง ระบุในวันอังคาร (10 ต.ค.) พบศพนักรบอิสลามิสต์ถึง 1,500 ศพในเมืองทางภาคใต้ของตน และทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากสงครามคราวนี้ทะลุ 3,000 คนแล้ว ขณะที่ฮามาสขู่ฆ่าตัวประกันทีละคนถ้าอิสราเอลโจมตีบ้านพลเรือนปาเลสไตน์โดยไม่เตือนล่วงหน้า
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวเตือนเมื่อวันจันทร์ (9) ว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลที่มุ่งตอบโต้แก้แค้นการโจมตีใหญ่ของฮามาสเมื่อวันเสาร์ (7 ) เป็นเพียงการเริ่มต้นของสงครามอันยาวนานที่จะทำลายฮามาสให้สิ้นซากและเปลี่ยนแปลงตะวันออกกลางทั้งหมด
ขณะที่หลายฝ่ายกังวลกันมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า สถานการณ์จะลุกลามบานปลายท่ามกลางการคาดการณ์ว่า อิสราเอลจะเปิดฉากใช้กำลังภาคพื้นดินเป็นหมื่นเป็นแสนคนบุกเข้าสู่ฉนวนกาซาที่มีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่หนาแน่น และฮามาสใช้เป็นฐานบุกโจมตีอิสราเอลทั้งทางบก อากาศ และทะเลเมื่อวันเสาร์ (7) ตลอดจนยิงจรวดหลายพันลูกเข้าไปในดินแดนของรัฐยิว
สื่ออิสราเอลรายงานเมื่อวันอังคาร (10 ) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของฮามาสที่ถือเป็นการโจมตีที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ 75 ปีของอิสราเอล พุ่งทะลุ 900 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนที่ถูกยิงในบ้าน บนถนน และในงานแสดงดนตรี ขณะที่เจ้าหน้าที่กาซาเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 765 คนแล้วจากการถล่มโจมตีตอบโต้ของอิสราเอล และกองทัพอิสราเอลระบุว่าพบศพพวกนักรบปาเลสไตน์ราวๆ 1,500 ศพในบริเวณภาคใต้ของอิสราเอล
เวลาเดียวกัน สหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงว่าจากการถล่มโจมตีอย่างแหลกลาญของอิสราเอลตั้งแต่วันเสาร์ (7) เวลานี้ประชาชน 180,000 คนในกาซาตอนนี้กลายเป็นผู้ไม่มีที่อยู่อาศัย หลายคนต้องนอนริมถนนหรือในโรงเรียน ควันและเปลวไฟคละคลุ้งจนถึงเช้าวันอังคาร (10) และการทิ้งระเบิดลงตามถนนสายต่างๆ ทำให้บ่อยครั้งทีมฉุกเฉินไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกโจมตีได้
ระหว่างกล่าวปราศรัยเมื่อคืนวันจันทร์ (9 ต.ค.) เนทันยาฮูเปรียบเทียบการสังหารหมู่พลเรือนอิสราเอลครั้งนี้กับความโหดร้ายของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอซิสตอนที่เข้าควบคุมพื้นที่กว้างขวางในซีเรียและอิรัก
ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลระดมทหารกองหนุน 300,000 นายร่วมปฏิบัติการ “ดาบเหล็ก” รวมทั้งระดมรถถังและยานยนต์หนักหุ้มเกราะอื่นๆ เข้าประชิดทั้งกาซาและพรมแดนด้านเหนือที่ติดกับเลบานอน
กองทัพอิสราเอลยังเผยว่า เข้าควบคุมพื้นที่ทางใต้และพรมแดนรอบกาซาส่วนใหญ่ได้แล้ว ระหว่างต่อสู้กับนักรบฮามาสที่กบดานในกว่า 10 เมืองทั่วอิสราเอล
จนถึงเวลานี้ อิสราเอลยังไม่เสร็จสิ้นการนับยอดรวมจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายอย่างเป็นทางการจากการถูกฮามาสบุกโจมตีเมื่อวันเสาร์
ที่เมืองเบเอรี ทางภาคใต้ของอิสราเอล เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครค้นพบศพผู้ถูกสังหารกว่า 100 ศพ
จำนวนมากเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านของพวกเขา
ส่วนที่ นิคมคิบบุตซ์ คฟาร์ อาซา ซึ่งอยู่ในพื้นที่แถบนั้นเช่นกัน มีศพทั้งของชาวบ้านชาวอิสราเอลและพวกนักรบฮามาส นอนตายอยู่บนพื้นข้างๆ เครื่องเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกทิ้งเกลื่อนกลาด และรถยนต์หลายคันที่ถูกเผาวอด
“คุณเห็นเด็กๆ ทารก ทั้งคุณแม่ คุณพ่อ ในห้องนอนของพวกเขา ในห้องเซฟรูมของพวกเขา และเห็นวิธีที่พวกผู้ก่อการร้ายสังหารพวกเขา มันไม่ใช่สงคราม มันไม่ใช่สนามรบ มันเป็นการสังหารหมู่” พลตรี อิไต เวรุฟ ของกองทัพอิสราเอลกล่าว ขณะอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารยังคงเฝ้ารักษาความปลอดภัยเส้นทางต่างๆ ของนิคมคิบบุตซ์แห่งนี้ ขณะที่สามารถได้ยินเสียงปืนและเสียงระเบิดในที่ห่างไกลออกไป รวมทั้งมีเสียงเครื่องบินไอพ่นคำรามเหนือศีรษะ และไซเรนเตือนภัยขณะจรวดที่ยิงเข้ามาถูกจรวดของระบบป้องกันภัยทะยานขึ้นสกัดกั้น
ขณะที่ ริชาร์ด เฮกต์ โฆษกกองทัพอิสราเอล แถลงว่า พบศพนักรบฮามาสราว 1,500 คนรอบฉนวนกาซาในเขตอิสราเอล
อเมริกาที่รายงานว่า มีพลเมืองเสียชีวิต 11 คน และสูญหายอีกหลายคนในเหตุการณ์รุนแรงนี้ ย้ำให้การสนับสนุนอิสราเอลเต็มที่เช่นเดียวกับอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี
กระนั้น ทำเนียบขาวประกาศว่า ไม่มีแผนส่งทหารอเมริกันเข้าร่วมความขัดแย้งนี้ และประณามการโจมตีของฮามาสว่า ป่าเถื่อนพอๆ กับไอซิส
นับจากเปิดฉากบุกอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ ฮามาสจับตัวประกันราว 150 คน ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้สูงวัย และหนุ่มสาวที่ถูกจับในเทศกาลดนตรีที่มีผู้เสียชีวิตราว 270 คน
ตอนนี้ผู้นำอิสราเอลต้องตัดสินใจว่า จะระงับการแก้แค้นเพื่อปกป้องตัวประกันหรือไม่ โดยเมื่อวันจันทร์ อาบู อูไบดา โฆษกฮามาสขู่ว่า จะสังหารตัวประกัน 1 คนทุกครั้งที่อิสราเอลโจมตีบ้านพลเรือน 1 หลังในกาซาโดยไม่แจ้งเตือน รวมทั้งจะเผยแพร่ภาพการสังหารตัวประกันด้วย
เวลาเดียวกัน ความกลัวและความสับสนอลหม่านปกคลุมทั่วฉนวนกาซาที่มีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่ 2.3 ล้านคน และถูกโจมตีด้วยระเบิดนับพันลูกจากอิสราเอล
นอกจากนี้อิสราเอลยังปิดล้อมดินแดนกาซาอย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่วันจันทร์ โดยตัดขาดสิ้นเชิงการลำเลียงน้ำ อาหาร ไฟฟ้า น้ำมัน และข้าวของเครื่องใช้จำเป็นอื่นๆ ไปให้แก่พลเรือนในดินแดนแห่งนี้ ซี่งมีชาวปาเลสไตน์พำนักอาศัยราว 2.3 ล้านคน
โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น กล่าวเมื่อวันอังคารว่า การปิดล้อมกาซาเป็นอันตรายต่อชีวิตพลเรือนจากการตัดขาดสิ่งของที่จำเป็นต่อความอยู่รอด ซึ่งเข้าข่ายละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
ขณะที่ตะวันตกสนับสนุนอิสราเอลแข็งขัน หลายเมืองในประเทศอาหรับมีการชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์
วันอังคาร อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้อุปถัมภ์ฮามาส แถลงว่า เตหะรานยินดีกับการโจมตีอิสราเอล แต่ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ และสำทับว่า การโจมตีของฮามาสเป็นการประเคนความพ่ายแพ้เกินเยียวยาให้แก่กองทัพและหน่วยงานด้านข่าวกรองของอิสราเอล
ขณะเดียวกัน การปะทะที่พรมแดนด้านเหนือของอิสราเอลเมื่อวันจันทร์ ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นว่า จะกลายเป็นแนวรบที่สองที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เป็นพันธมิตรสำคัญของอิหร่าน ถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้ง อย่างไรก็ดี ฮิซบอลเลาะห์ยืนยันว่า ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการบุกโจมตีในดินแดนอิสราเอล
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)