ยูเครนได้รับรถถังประจัญบานเอบรามส์จากสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากคำแถลงของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในวันจันทร์ (25 ก.ย.) ความเคลื่อนไหวซึ่งจะช่วยเสริมแสนยานุภาพแก่กองกำลังเคียฟ ในขณะที่พวกเขากำลังหาทางฝ่าแนวป้องกันป้อมปราการหนาแน่นของฝ่ายรัสเซีย
คำแถลงนี้มีขึ้นไม่นานหลังจากยูเครนอ้างว่าได้สังหารผู้บัญชาการกองเรือทะเลดำของรัสเซีย ในปฏิบัติการโจมตีด้วยขีปนาวุธใส่กองบัญชาการกองทัพเรือของมอสโกในแคว้นไครเมียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในสิ่งที่เชื่อว่าได้ก่อการเสียหน้าครั้งใหญ่แก่รัสเซีย
"รถถังเอบรามส์อยู่ในยูเครนแล้ว และกำลังเตรียมการส่งไปเสริมกำลังกองกำลังของเรา" เซเลนสกีกล่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์
ที่ผ่านมา เซเลนสกีเรียกร้องซ้ำๆ ร้องขออาวุธจากตะวันตกเพิ่มเติม ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกลกว่าเดิม เพื่อช่วยทะลวงฝ่าฐานที่มั่นต่างๆ ของฝ่ายรัสเซีย และเปิดฉากโจมตีลึกเข้าไปภายในดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย
เซเลนสกี ไม่ได้ให้รายละเอียดว่ารถถังถูกส่งมาถึงแล้วกี่คัน หรืออีกนานแค่ไหนที่รถถังดังกล่าวนี้จะถูกส่งเข้าไปประจำการในแนวหน้า "ผมขอบคุณพันธมิตรของเราที่ทำตามข้อตกลงต่างๆ เรากำลังตั้งตาคอยสำหรับสัญญาใหม่ๆ และการขยายขอบเขตจัดหาทางภูมิศาสตร์"
วอชิงตันสัญญามอบรถถังเอบรามส์ 31 คันแก่เคียฟ เมื่อช่วงต้นปี ส่วนหนึ่งในความช่วยเหลือด้านความมั่นคงมากกว่า 43,000 ล้านดอลลาร์ ที่สหรัฐฯ รับปากไว้นับตั้งแต่มอสโกเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน
รัสเซียประณามซ้ำๆ ต่อการจัดหาอาวุธแก่ยูเครน โดยชี้ว่ามันรังแต่จะทำให้ความขัดแย้งลากยาว และเสี่ยงทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย
ไม่นานก่อนที่เซเลนสกีจะออกถ้อยแถลง ทาง ยูเครนกล่าวอ้างว่าได้สังหารผู้บัญชาการกองเรือทะเลดำของรัสเซีย ในเหตุโจมตีใส่กองบัญชาการกองทัพเรือของมอสโก ในดินแดนผนวกไครเมีย เมื่อวันศุกร์ (22 ก.ย.)
การโจมตีดังกล่าวก่อความเสียหายร้ายแรงแก่มอสโก ซึ่งถูกโจมตีซ้ำๆ เล่นงานเซวาสโตโปล เมืองท่าที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา "เจ้าหน้าที่ 34 คนเสียชีวิต ในนั้นรวมถึงผู้บัญชาการกองเรือทะเลดำ และผู้รุกรานอีก 105 คนได้รับบาดเจ็บ" กองกำลังพิเศษของยูเครนระบุในถ้อยแถลง
ไม่เป็นที่ชัดเจนในเฉพาะหน้านี้ว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษของยูเครนใช้วิธีใดในการนับจำนวนผู้ตายและบาดเจ็บจากการโจมตีคราวนี้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาหลายๆ ครั้ง ทั้งมอสโกและเคียฟต่างแถลงอย่างเกินจริงเกี่ยวกับความสูญเสียของข้าศึก ขณะที่แทบไม่พูดถึงความสูญเสียของฝ่ายตนเอง
ยูเครนและรัสเซีย ต่างฝ่ายต่างยกระดับการโจมตีทั้งในและรอบทะเลดำเพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่มอสโกถอนตัวจากข้อตกลงหนึ่งซึ่งอนุญาตให้เรือสินค้าพลเรือนเข้าออกจากท่าเรือ 3 แห่งของยูเครนอย่างปลอดภัย
(ที่มา : เอเอฟพี)