วอลล์สตรีทเจอร์นัลชี้กองทัพรัสเซียปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงในสนามรบอย่างต่อเนื่อง ทำให้แผนการของยูเครนในการช่วงชิงดินแดนคืนมีแนวโน้มยากลำบากมากขึ้น
หนังสือพิมพ์ชั้นนำของอเมริการะบุในรายงานฉบับวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 ก.ย.) ว่า กองทัพรัสเซียกำลัง “โชว์ความสามารถในการเรียนรู้จากความผิดพลาดในช่วงต้น” และความสามารถในการเปลี่ยนยุทธวิธีนี้อาจทำให้ยูเครนขับไล่กองทัพรัสเซียออกจากดินแดนของตนเองได้ยากลำบาก
รายงานนี้สำทับว่า มอสโกกำลังเปลี่ยนมาใช้ยุทธศาสตร์การค่อยๆ ตัดกำลังยูเครนและตะวันตก
ข้อสรุปของสื่ออเมริกันได้รับการสนับสนุนจาก พล.อ.เจมส์ เฮกเกอร์ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในยุโรปที่บอกว่า รับรู้และกำลังจับตาการปรับตัวของรัสเซียอย่างใกล้ชิด
วอลล์สตรีท เจอร์นัล นำเสนอตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงแนวทางของกองทัพรัสเซียในการรับมือยุทธวิธีของยูเครนและอาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้ เช่น หลังจากเมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่แล้ว เคียฟสามารถรุกตอบโต้ในแคว้นคาร์คิฟ มาในปีนี้ มอสโกใช้เวลาหลายเดือนเตรียมแนวป้องกันที่ดีเยี่ยมก่อนที่ยูเครนจะเปิดฉากปฏิบัติการตอบโต้ใหญ่ และด้วยแนวป้องกันเหล่านั้นส่งผลให้กองกำลังยูเครนมีความคืบหน้าช้ามากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เพราะต้องเผชิญกับระเบิดที่กระจัดกระจายเต็มไปหมด และกลายเป็นเป้าหมายให้เฮลิคอปเตอร์ ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง และปืนใหญ่ของรัสเซียเลือกโจมตีตามใจชอบ
รายงานนี้สำทับว่า มอสโกยังใช้โดรนหลากหลายประเภทโจมตีที่มั่นของยูเครนในแบบที่ยากจะตอบโต้ รวมทั้งยังทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ในวงกว้าง โดยกองกำลังยูเครนที่ปฏิบัติการอยู่ใกล้เมืองบัคมุต เผยว่า เสียโดรนวันละหลายสิบลำเพราะรัสเซียใช้อุปกรณ์ส่งสัญญาณรบกวนทำให้โดรนตกในพื้นที่ของข้าศึก
รัสเซียยังติดตั้งระบบนำทางบนระเบิดรุ่นเก่าที่มักทิ้งลงจากเครื่องบินนอกน่านฟ้ายูเครน ทำให้ยูเครนตรวจจับและยิงทิ้งจากเครื่องบินยุคโซเวียตได้ยาก
รายงานนี้ตั้งข้อสังเกตว่า มอสโกย้ายฐานบัญชาการและคลังอาวุธไกลจากแนวรบและพ้นระยะโจมตีของระบบจรวดหลายลำกล้องเคลื่อนที่ได้คล่องตัว “ไฮมาร์ส” (HIMARS) ที่อเมริกาจัดหาให้เคียฟ
ทางด้านอุตสาหกรรมทางทหารของรัสเซียก็กำลังปรับตัวเช่นกัน โดยหาวิธีการต่างๆ เพื่อประคับประคอง และกระทั่งเพิ่มการผลิตอาวุธบางประเภทได้ ถึงแม้ถูกแซงก์ชันก็ตาม
ทั้งนี้ ปฏิบัติการตอบโต้ของยูเครนเริ่มต้นขึ้นนับจากต้นเดือนมิถุนายน แต่สามารถยึดหมู่บ้านขนาดเล็กที่อยู่ไกลจากแนวป้องกันของรัสเซียคืนได้ไม่กี่แห่ง ต้นเดือนนี้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ประเมินว่า เคียฟสูญเสียทหารกว่า 71,000 นาย รถถัง 543 คัน และยานยนต์หุ้มเกราะเกือบ 18,000 คัน โดยที่ไม่ประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันในสนามรบ
(ที่มา : อาร์ที)