จีนเปิดเผยเมื่อวันพุธ (13 ก.ย.) กำลังติดตามรายงานข่าวของสื่อมวลชน ในประเด็นต้องสงสัยด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับไอโฟน แต่ยืนยันไม่ได้ห้ามเจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์เหล่านั้น ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางเทคโนโลยีระหว่างปักกิ่งกับตะวันตก
ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า จีนได้สั่งห้ามพวกเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหลายจากการใช้ไอโฟน และบลูมเบิร์กรายงานในเวลาต่อมา ว่าปักกิ่งมีแผนขยายมาตรการแบนครอบคลุมถึงองค์กรต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและรัฐวิสาหกิจทั้งหลายด้วย
ระหว่างแถลงข่าวประจำวัน กระทรวงการต่างประเทศจีนบอกว่า "พวกเขาตั้งข้อสังเกตอย่างจริงจังเกี่ยวกับรายงานข่าวของสื่อมวลชนเมื่อเร็วๆ นี้ ที่เปิดโปงถึงเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์มือถือของแอปเปิล" อย่างไรก็ตาม "จีนไม่ได้ออกกฎหมาย กฎระเบียบหรือเอกสารทางนโยบายใดๆ ที่ห้ามซื้อและใช้สมาร์ทโฟนที่ผลิตโดยแบรนด์ต่างชาติ อย่างเช่นแอปเปิล" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุ
"รัฐบาลจีนให้ความสำคัญใหญ่หลวงกับข้อมูลและความมั่นคงทางไซเบอร์ และปฏิบัติกับบรรดาผู้ประกอบการ ทั้งที่ได้รับเงินทุนจากต่างชาติและภายในประเทศในแนวทางเดียวกันและบนพื้นฐานของความเท่าเทียม" เหมากล่าว "เราใช้ทัศนคติแบบเปิดกว้างอยู่เสมอต่อผู้ประกอบการที่ได้รับเงินทุนจากต่างชาติ และยินดีที่พวกเขาฉวยโอกาสแห่งการพัฒนาการของจีนและมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจจีนร่วมกัน"
หุ้นของแอปเปิลร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามหลังรายงานข่าวเกี่ยวกับการกำหนดข้อจำกัดในจีน
ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ แห่งนี้ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในจีน โดยที่การเปิดตัวไอโฟน 15 เมื่อวันพุธ (13 ก.ย.) ก่อประเด็นการสนทนากันอย่างกว้างขวางบนสื่อสังคมออนไลน์ ก่อนหน้าที่จะมีการวางจำหน่ายในจีนภายในเดือนนี้
ปักกิ่งมีปัญหากระทบกระทั่งกับสหรัฐฯ และบรรดาประเทศตะวันตกอื่นๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในประเด็นเทคโนโลยีต่างๆ
วอชิงตันกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหัวเว่ย บริษัทจีน ฐานต้องสงสัยว่าบริษัทแห่งนี้ช่วยปักกิ่งทำการจารกรรม ข้อกล่าวหาที่หัวเว่ย ปฏิเสธ
สหรัฐฯ ยังกดดันบรรดาพันธมิตรให้แบนเทคโนโลยีของหัวเว่ย จากเครือข่าย 5จี บนคำกล่าวหาที่ว่า ปักกิ่งอาจใช้อุปกรณ์ดังกล่าวสอดแนมการสื่อสารและการรับส่งข้อมูลของประเทศอื่นๆ
(ที่มา : เอเอฟพี)