รองประธานาธิบดีจีนพบหารือรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำสัมพันธ์ปักกิ่ง-วอชิงตันที่มั่นคงและสันติคือสิ่งที่โลกต้องการ ขณะฝ่ายอเมริกันก็ขานรับพร้อมจัดการความสัมพันธ์อย่างมีความรับผิดชอบ เวลาเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศจีนซึ่งกำลังเยือนมอสโก ก็หารือกับทางแดนหมีขาว โดยกระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกคำแถลงย้ำสองชาติมีจุดยืนใกล้เคียงกันเกี่ยวกับการดำเนินการของอเมริกาในสถานการณ์ระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการต่อต้านรัสเซียและจีน
สื่อของทางการจีนยังรายงานเมื่อวันอังคาร (19 ก.ย.) ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ตอบจดหมายของไทเกอร์ แฮร์รี่ โมเยอร์ และเมล มึมุลเลน อดีตนักบินสหรัฐฯ จากกลุ่มฟลายอิ้ง ไทเกอร์ส ที่ปฏิบัติการสู้รบเพื่อช่วยเหลือจีนในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย สี กล่าวว่า ประชาชนจีนและอเมริก่เคยมีศัตรูเดียวกันคือญี่ปุ่น และสองประเทศได้สร้างมิตรภาพอันอย่างลึกซึ้ง สำหรับอนาคตนั้น จีนและอเมริกาในฐานะมหาอำนาจ มีความรับผิดชอบต่อสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาของโลก และควรเคารพกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ รวมทั้งร่วมมือกันที่จะนำประโยชน์มาให้ทั้งสองฝ่าย
การเรียกร้องความสัมพันธ์ที่มั่นคงและสันติของ สี มีขึ้น ในช่วงเดียวกับที่พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีน ได้จัดประชุมหารือกันหลายรอบในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเพื่อลดความตึงเครียดและฟื้นช่องทางการสื่อสาร
ล่าสุดคือเมื่อวันจันทร์ (18) ซึ่งรองประธานาธิบดีหัน เจิ้ง ของจีน ที่เดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่นิวยอร์ก ได้พบแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ โดย หัน ย้ำว่า โลกต้องการเห็นความสัมพันธ์ที่มั่นคงและสันติระหว่างจีนกับอเมริกา ขณะที่บลิงเคนขานรับว่า โลกคาดหวังให้อเมริกาและจีนจัดการความสัมพันธ์อย่างมีความรับผิดชอบ และอเมริกาพร้อมดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้
ภายหลังการพบปะ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำแถลงว่า การหารือเป็นไปอย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์ ทั้งคู่เห็นพ้องคงช่องทางการสื่อสารที่เปิดกว้าง นอกจากนั้น ยังมีการพูดคุยเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย การยั่วยุของเกาหลีเหนือ และสถานการณ์ช่องแคบไต้หวัน
ในปีนี้ ทั้งบลิงเคน จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์ และเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลัง รวมถึงจอห์น เคร์รี ผู้แทนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต่างผลัดเปลี่ยนกันเดินทางไปจีนเพื่อฟื้นความสัมพันธ์ หลังจากสองชาติบาดหมางกันอย่างหนักจากกรณีที่กองทัพสหรัฐฯ ยิงบอลลูนจีนที่บินเหนือแผ่นดินอเมริกาเนื่องจากเชื่อว่าเป็นบอลลูนสอดแนม ซึ่งล่าสุด พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯ ยอมรับว่า บอลลูนดังกล่าวไม่ได้รวบรวมหรือส่งข่าวกรองใดๆ กลับไปให้จีนเลย
อนึ่ง แรกทีเดียวนั้นเจ้าหน้าที่อเมริกันคาดหวังว่า จีนจะส่งหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศ เข้าร่วมประชุมประจำปียูเอ็น แต่กลับกลายเป็นส่ง หัน มาแทน ส่วน หวัง ที่ควบตำแหน่งผู้อำนวยการนโยบายต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์ด้วยนั้น ได้หารือกับเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มอลตา และเดินทางต่อไปยังมอสโกทันทีเพื่อพบกับเซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ระหว่างการเยือนเป็นเวลา 4 วัน
ในวันอังคาร (19 ก.ย.) กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงผ่านแพลตฟอร์มเทเลกราฟภายหลังการหารือระหว่างหวังกับลาฟรอฟ ว่า รัสเซียและจีนมีจุดยืนใกล้เคียงกันเกี่ยวกับการดำเนินการของอเมริกาในสถานการณ์ระหว่างประเทศที่รวมถึงการต่อต้านรัสเซียและจีน
คำแถลงสำทับว่า หวังได้สรุปเนื้อหาการหารือกับซัลลิแวนให้ลาฟรอฟรับทราบ
ทั้งนี้ อเมริกาและพันธมิตรแสดงความกังวลบ่อยครั้งเกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซีย ซึ่งยิ่งแนบแน่นหลังจากมอสโกส่งทหารบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
แม้ไม่ได้มีการทำสัญญาร่วมป้องกันในลักษณะสนับสนุนกันทางทหาร และดูเหมือนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ต้องพึ่งพิง สี มากกว่าที่จีนพึ่งรัสเซียที่จัดหาน้ำมันและก๊าซให้ แต่สองประเทศถูกดึงดูดเข้าหากันใกล้ชิดขึ้นเพื่อต่อต้านการครอบงำกิจการโลกของอเมริกา
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเพิ่มเติมว่า การหารือระหว่างลาฟรอฟ กับหวัง ยังรวมถึงเรื่องที่มอสโกเตรียมเข้าร่วมเวทีประชุมแผนการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ที่จะจัดขึ้นเดือนหน้าที่ปักกิ่ง โดยไม่ได้ยืนยันว่า ปูตินจะไปร่วมประชุมด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ คำแถลงบอกว่าทั้งคู่ยังหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน โดยมีการตั้งข้อสังเกตถึงความพยายามอย่างไร้ประโยชน์ในการแก้ไขวิกฤตยูเครนโดยที่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของรัสเซีย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่เชิญรัสเซียเข้าร่วม
ขณะที่สื่อของทางการจีนรายงานว่า หวังย้ำจุดยืนเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนโดยเรียกร้องให้มีการเจรจาสันติภาพ ซึ่งต้องคำนึงถึงข้อกังวลด้านความมั่นคงของทุกฝ่าย และมุ่งขจัดรากเหง้าของความขัดแย้ง
สำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์รายงานว่า ในวันอังคาร หวังจะหารือด้านความมั่นคงเชิงยุทธศาสตร์กับนิโคไล ปาตรูเชฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงของรัสเซีย
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)