รมว.ต่างประเทศไต้หวัน เรียกร้องให้รวมไต้หวันไว้ในสหประชาชาติ

นายอู๋ จาวเซี่ย (โจเซฟ วู) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เขียนบทความเรียกร้องขอเข้าร่วมสหประชาชาติ โดยเน้นย้ำว่า ไต้หวันยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และโจมตีรัฐบาลปักกิ่ง ว่าทวีความก้าวร้าวมากขึ้นในการคุกคามไต้หวันทั้งทางการทหาร และวิถีชีวิต ซึ่งรวมถึงการส่งเครื่องบินรบและเรือข้ามแนวกึ่งกลางของช่องแคบไต้หวัน รุกล้ำเข้าไปในเขตระบุการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน

รมว.ต่างประเทศไต้หวัน ย้ำผ่านบทความด้วยว่า การรับรองสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันถือเป็นประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่าย ในแต่ละวันมีตู้คอนเทนเนอร์เชิงพาณิชย์ทั่วโลกจำนวนมากขนส่งผ่านช่องแคบไต้หวัน ไต้หวันผลิตเซมิคอนดักเตอร์ส่วนใหญ่ของโลกและมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ความขัดแย้งใดๆ ในพื้นที่ย่อมส่งผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโลก ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้รวมไต้หวันไว้ในสหประชาชาติ

“สหประชาชาติยังคงเป็นเวทีที่ดีที่สุดสำหรับวาทกรรมระดับโลก เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติมักพูดถึงการแก้ปัญหาร่วมกัน ความสามัคคี และการรวมตัวกันในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในยุคของเรา ไต้หวันมีความปรารถนาเป็นอย่างยิ่งและมีความที่จะมีส่วนร่วมในความพยายามเหล่านี้”

นายอู๋ จาวเซี่ย แจกแจงว่า ไต้หวันยังคงถูกแยกออกจากสหประชาชาติเนื่องจากการบิดเบือนของจีนต่อมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่ 2758 มตินี้ไม่ได้ระบุว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของ PRC และไม่ได้ให้สิทธิแก่ PRC ในการเป็นตัวแทนของประชาชนไต้หวันใน UN และของไต้หวัน ในทางกลับกัน มติดังกล่าวกำหนดเพียงว่าใครเป็นตัวแทนของ “จีน” ในฐานะรัฐสมาชิก เป็นข้อเท็จจริงที่ประชาคมระหว่างประเทศและจีนยอมรับหลังจากการลงคะแนนที่เกี่ยวข้องในปี 1971 การบิดเบือนความจริงในมติที่ 2758 ในเวลาต่อมาขัดแย้งกับหลักการพื้นฐานที่ยึดถือโดยกฎบัตรสหประชาชาติ และจะต้องได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง

“การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 78 ซึ่งจะเน้นไปที่หัวข้อ “การสร้างความไว้วางใจและการจุดประกายความสามัคคีระดับโลกขึ้นมาใหม่” ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเมื่อคำนึงถึงความท้าทายระดับโลกหลายประการ ตัวอย่างเช่น เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ของสหประชาชาติได้รับการออกแบบให้เป็นพิมพ์เขียวที่ใช้ร่วมกันเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง รายงานความคืบหน้าของ SDG ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเป้าหมาย SDG เพียงร้อยละ 12 เท่านั้นที่เป็นไปตามแผน ในขณะที่ความคืบหน้าร้อยละ 50 ยังคงไม่เพียงพอ และยิ่งไปกว่านั้น มีมากกว่าร้อยละ 30 ที่เราได้หยุดนิ่งหรือถดถอยด้วยซ้ำ

แม้ว่าจะไม่มีวิธีแก้ปัญหาอย่างง่ายดาย แต่การสนทนาเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุด สหประชาชาติมีฐานะเป็นองค์กรระดับโลกอย่างแท้จริง พึงทำหน้าที่เป็นผู้นำแห่งความก้าวหน้า เราเรียกร้องให้สหประชาชาติสนับสนุนหลักการของตนในการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยอนุญาตให้ไต้หวันมีส่วนร่วมในระบบของสหประชาชาติ แทนที่จะแยกไต้หวันออกจากการอภิปรายในประเด็นที่ต้องใช้ความร่วมมือระดับโลก ขั้นตอนแรกที่ดีคือการอนุญาตให้บุคคลและนักข่าวชาวไต้หวันเข้าร่วมหรือครอบคลุมการประชุมที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนดูแลให้ไต้หวันมีส่วนร่วมในการประชุมและกลไกที่เกี่ยวข้องกับ SDGs อย่างมีความหมาย” รมว.ต่างประเทศไต้หวัน กล่าวผ่านบทความตอนหนึ่ง