ไต้หวันจะไม่หวั่นเกรงหรือยอมจำนนต่อคำขู่ของพวกเผด็จการ ในคำยืนยันจากปากรองประธานาธิบดีของเกาะแห่งนี้ ที่บอกกับบรรดาผู้สนับสนุนระหว่างแวะพักในสหรัฐฯ การเยือนที่ถูกประณามอย่างดุเดือดจากปักกิ่ง อย่างไรก็ตาม รองประธานาธิบดีไทเป เน้นย้ำถึงความตั้งใจพูดคุยเจรจากับจีน
นายวิลเลียม ไล่ ตัวเต็งของศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีคนถัดไปของไต้หวัน ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้า เวลานี้อยู่ในสหรัฐฯ ในสิ่งที่เรียกว่าเป็นการแวะพักอย่างเป็นทางการ ระหว่างมุ่งหน้าสู่ปารากวัย เพื่อร่วมพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีคนใหม่ปารากวัย ทั้งนี้ ปารากวัยเป็นเพียงหนึ่งใน 13 ชาติ ที่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับเกาะปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตยแห่งนี้ ที่ทางจีนกล่าวอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน
ไต้หวันและสหรัฐฯ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการแวะพัก ในนั้นรวมถึงในซานฟรานซิสโก ระหว่างขากลับ เป็นการแวะพักตามปกติ แต่ จีนประณามความเคลื่อนไหวดังกล่าวและเรียกนายไล่ ว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดนที่ก่อปัญหา
นายไล่ บอกกับบรรดาผู้สนับสนุนในนิวยอร์กเมื่อวันอาทิตย์ (13 ส.ค.) ว่า "ถ้าไต้หวันปลอดภัย โลกก็จะปลอดภัย ถ้าช่องแคบไต้หวันมีสันติ เมื่อนั้นโลกก็จะมีสันติภาพ" พร้อมกล่าวต่อว่า "มันไม่สำคัญหรอกว่าพวกเผด็จการจะข่มขู่ไต้หวันหนักหน่วงแค่ไหน อย่างแน่ชัดว่า เราจะไม่หวาดกลัวหรือขลาดเขลา เราจะยึดมั่นในค่านิยมแห่งประชาธิปไตยและเสรีภาพ"
ปักกิ่งดูเหมือนจะไม่ชื่นชอบ ไล่ เป็นการเฉพาะ เนื่องจากในอดีตเขาเคยประกาศตนในฐานะคนงานฝ่ายปฏิบัติการสำหรับความเป็นเอกราชของไต้หวัน เส้นตายที่ปักกิ่งขีดไว้และไม่เคยปฏิเสธความเป็นไปได้ของการใช้กำลังดึงเกาะแห่งนี้เข้าไปอยู่ภายใต้การควบคุม
ทั้งนี้ ไล่ ซึ่งเคยเน้นย้ำเกี่ยวกับการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและสถานภาพปัจจุบันของช่องแคบไต้หวัน ได้กล่าวย้ำอีกครั้งในนิวยอร์ก ว่าด้วยเกียรติภูมิและความเสมอภาค เขามีความตั้งใจอย่างมากที่จะพูดคุยกับจีน และเสาะหาสันติภาพและเสถียรภาพร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ไล่ กล่าวว่าเขาจะปกป้องอธิปไตยของไต้หวัน และเน้นย้ำว่ามีเพียงประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้นที่สามารถตัดสินอนาคตของตนเอง และสาธารณรัฐจีน (ชื่ออย่างเป็นทางการของไต้หวัน) และสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่ได้อยู่ใต้บังคับบัญชาของอีกฝ่าย
ทั้งไต้หวันและสหรัฐฯ ต่างไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับกำหนดการของ ไล่ ในอเมริกา และทั้ง 2 ชาติ หวังเก็บการแวะพักครั้งนี้ให้เป็นไปอย่างเรียบง่ายไม่เอิกเกริก พร้อมเรียกร้อง จีน อย่าใช้มาตรการยั่วยุใดๆ ในการตอบโต้
แต่กระนั้น พวกเจ้าหน้าที่ไต้หวันเปิดเผยว่าดูเหมือน จีน จะเปิดการซ้อมรบทางทหารใกล้ไต้หวันอีกรอบในสัปดาห์นี้ โดยใช้การแวะพักสหรัฐฯ ของนายไล่ เป็นข้ออ้างสำหรับการข่มขู่บรรดาผู้มีสิทธิออกเสียงของศึกเลือกตั้งในปีหน้า และทำให้พวกเขาหวั่นเกรงว่าจะเกิดสงคราม
การเดินทางเยือนปารากวัยครั้งนี้ของรองประธานาธิบดีไต้หวัน ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากขณะเดียวกันจีนได้ยกระดับความพยายามดึงบรรดาพันธมิตรที่เหลืออยู่ของไต้หวันเข้ามาสู่อ้อมอก โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ฮอนดูรัส ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่หูที่ซื่อสัตย์ของไต้หวัน ได้เปลี่ยนข้างหันไปสานสัมพันธ์กับจีนแทน
จีน มองไต้หวัน ว่าเป็นประเด็นการทูตที่สำคัญที่สุดของพวกเขา และมันเป็นบ่อเกิดแห่งความแตกร้าวมาอย่างยาวนานระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน ผู้สนับสนุนระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุดและเป็นผู้จัดหาอาวุธรายสำคัญที่สุดของไทเป
(ที่มา : รอยเตอร์)