ยูเครนสามารถหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตของคนนับแสนและสูญเสียดินแดนน้อยกว่านี้ หากว่าพวกเขาบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย ก่อนความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว จากความเห็นของโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซี นิวส์ ที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ (17 ก.ย.)
การสูญเสียดินแดนยูเครนให้รัสเซีย "เป็นบางอย่างที่สามารถเจรจาต่อรองได้" ทรัมป์ บอกกับเอ็นบีซี นิวส์ พร้อมระบุว่า "ผู้คนมากมายคาดหวังว่า เคียฟจะละทิ้งคำกล่าวอ้างเหนือไครเมียและพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ แลกกับสันติภาพ"
"ดังนั้น พวกเขาอาจทำข้อตกลงที่พวกเขาสูญเสียดินแดนน้อยกว่าที่ถูกรัสเซียยึดไปในตอนนี้" ทรัมป์กล่าวต่อ "พวกเขาอาจทำข้อตกลงที่ไม่มีใครเสียชีวิต พวกเขาจะยังมีประเทศยูเครน ผิดกับเวลานี้ที่ไม่มีใครรู้กระทั่งว่า ยูเครนจะถูกยึดครองโดยสิ้นเชิงหรือไม่"
คำว่า "พื้นที่อื่นๆ ของประเทศ" ดูเหมือน ทรัมป์ จะพาดพิงถึงสาธารณรัฐประชาชนโดเนสต์กและลูฮันสก์ ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ให้การรับรองเอกราช 3 วัน ก่อนหน้าที่จะสั่งกองทัพเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ตามด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญในเดือนกันยายนปีก่อน ซึ่งทั้ง 2 แคว้นเวลานี้ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียแล้ว เช่นเดียวกับแคว้นเคียร์ซอนและซาโปริซเซีย ในขณะที่ไครเมีย โหวตเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียตั้งแต่ปี 2014
จากนั้น ทรัมป์ เน้นย้ำคำกล่าวอ้างว่า ถ้าเขาได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีหน้า เขาจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพภายใน 24 ชั่วโมง
"ผมจะพาประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เข้าไปในห้อง เช่นเดียวกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ผมจะพาพวกเขามาอยู่ด้วยกัน และผมจะได้ข้อตกลงที่ได้ผลหนึ่งๆ" เขากล่าว "มันคงเป็นเรื่องง่ายกว่านี้หากสงครามไม่ได้เริ่มขึ้น และคุณยังมีผู้คนหลายแสนคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งมันสิ่งสำคัญที่สุด แต่เราสามารถทำให้มันจบลงและผมสามารถทำให้มันจบลงอย่างรวดเร็ว"
จุดยืนของทรัมป์ เกี่ยวกับสงครามในยูเครน สวนทางโดยสิ้นเชิงกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้ซึ่งประกาศจะมอบแรงสนับสนุนทางทหารแก่เคียฟ นานที่สุดเท่าที่ต้องการเพื่อเอาชนะรัสเซียในสนามรบ
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)