ใครโก่งราคา!? นาโตครวญกระสุนแพงขึ้นมาก กระทบความพยายามยกระดับความมั่นคง

เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เตือนเมื่อวันเสาร์ (16 ก.ย.) ราคากระสุนที่แพงขึ้นอย่างมาก นั่นหมายความว่าการยกระดับค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมไม่ได้แปรเปลี่ยนสู่ความมั่นคงที่เพิ่มเติมแต่อย่างใด และเรียกร้องให้ลงทุนโดยภาคเอกชนเพิ่มยิ่งขึ้นในบริษัทด้านกลาโหมทั้งหลาย

"ราคายุทโธปกรณ์และกระสุนกำลังพุ่งขึ้น เรากำลังจ่ายมากขึ้นๆ สำหรับยุทโธปกรณ์และกระสุนเท่าเดิม" พล.ร.อ.ร็อบ บาวเออร์ แห่งเนเธอร์แลนด์ ประธานคณะกรรมการด้านทหารของนาโต กล่าวเมื่อวันเสาร์ (16 ก.ย.) หลังพบปะกับบรรดาผู้บัญชาการทหารของพันธมิตรนาโตในออสโล "นั่นหมายความว่าเราไม่สามารถมั่นใจได้ว่า การยกระดับใช้จ่ายด้านกลาโหมจะนำไปสู่ความมั่นคงยิ่งขึ้นอย่างแท้จริง"

ที่ผ่านมา นาโตกดดันให้ยกระดับการผลิตด้านกลาโหม รองรับอุปสงค์ทางอาวุธและยุทโธปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครน ทั้งนี้พันธมิตรไม่ใช่แค่เร่งจัดหาแก่เคียฟเท่านั้น แต่ยังยกระดับคลังแสงของตนเองด้วย

หนึ่งในความกังวลหลักคือปัญหาขาดแคลนกระสุน 155 มม. ด้วยเคียฟใช้กระสุนชนิดนี้สูงสุด 10,000 นัดต่อวัน

ในเดือนกุมภาพันธ์ เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต เคยเตือนว่าเคียฟกำลังผลาญกระสุนต่างๆ เร็วกว่าที่ตะวันตกสามารถผลิตได้อย่างมาก

บาวเออร์ เรียกร้องให้ลงทุนโดยเอกชนเพิ่มเติมในด้านกลาโหม เพื่อยกระดับศักยภาพกำลังผลิต เร่งเร้ากองทุนบำนาญและธนาคารต่างๆ หยุดตราหน้าการลงทุนด้านกลาโหมว่าผิดศีลธรรมจรรยาเสียที

"ความจำเป็นด้านเถียรภาพในระยะยาวมีความสำคัญเหนือกว่าผลกำไรในระยะสั้น ดังเช่นที่เราเห็นในยูเครน สงครามเป็นเหตุการณ์ทางสังคมทั้งมวล" เขากล่าว "40% ของเศรษฐกิจยูเครนหายวับไปในวันแรกของสงคราม เงินภาคเอกชนในขอบเขตมหาศาล สูญหายไป"

ทั้งนี้ บาวเออร์ กดดันให้บรรดาผู้นำธุรกิจเร่งจัดยกระดับศักยภาพการผลิต อย่างไรก็ตามเขายอมรับว่ามีความไม่สัมพันธ์กันระหว่างปัญหาขาดแคลนกระสุนกับความคืบหน้าอย่างยากลำบากในปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ในยูเครน

"เหตุผลว่าทำไมมันถึงต้องใช้เวลา เพราะว่ามันอันตรายอย่างมาก เพราะว่ามีกับระเบิดมหาศาลอยู่ในทุ่งระเบิดที่ลึกอย่างมาก มากกว่า 10 กิโลเมตร มีกับระเบิดอยู่ 5 หรือ 6 อัน ต่อตารางเมตรเลยทีเดียว" เขากล่าว พร้อมเน้นว่ายูเครนยังคงรุกคืบราว 200 หรือ 300 เมตรต่อวัน

ในปี 2024 นาโตจะจัดการซ้อมรบป้องกันตนเองร่วมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา นับตั้งแต่สงครามโลก โดยทหาร 40,000 นายจากทั้งพันธมิตรแห่งนี้จะเข้าร่วมในการซ้อมรบ Steadfast Defender ในเยอรมนี โปแลนด์ และ 3 ชาติบอลติก

(ที่มา : รอยเตอร์)