xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียเตือนซ้ำสงครามนุก-เผยติดตั้งนิวเคลียร์ในเบลารุสคืบหน้า หลังเพนตากอนอนุมัติส่งกระสุนยูเรเนียมด้อยสมรรถนะให้เคียฟ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ (ซ้าย) นั่งอยู่ในรถเอ็มแรป (MRAP รถหุ้มเกราะต้านทานทุ่นระเบิดและซุ่มโจมตี) คันหนึ่งที่สหรัฐฯจัดส่งมาให้แก่ยูเครน ขณะที่เขาไปเยือนสำนักงานแห่งหนึ่งของกองรักษาการณ์ชายแดนของยูเครน ในแคว้นเคียฟ เมื่อวันพฤหัสบดี (7 ก.ย.)  ทั้งนี้ บลิงเคนเดินทางมาเยือนยูเครนคราวนี้ พร้อมกับข่าวที่สหรัฐฯอนุมัติความช่วยเหลือก้อนใหม่ให้แก่เคียฟมูลค่ารวม 1,000 ล้านดอลลาร์
ยูเครนและฝ่ายตะวันตกรุมประณาม กล่าวหารัสเซียโจมตีตลาดในเมืองคอสเตียนตินิฟกา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คน ซึ่งเกิดขึ้นวันเดียวกับที่รัฐมนตรีต่างประเทศบลิงเคนของสหรัฐฯเยือนกรุงเคียฟโดยไม่เปิดเผยล่วงหน้า พร้อมแพ็คเกจความช่วยเหลือใหม่ ที่รวมถึงการจัดหากระสุนยูเรเนียมด้อยสมรรถนะซึ่งรัสเซียกล่าวหาว่า สะท้อนความโหดเหี้ยมของอเมริกาที่กำลังหลอกตัวเองด้วยการไม่ยอมรับว่า ปฏิบัติการรุกตอบโต้ของยูเครนล้มเหลว ขณะที่รัฐมนตรีช่วยกลาโหมมอสโกยังย้ำคำเตือนเกี่ยวกับสงครามนิวเคลียร์ และสำทับว่า การนำเอาอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีไปประจำการในเบลารุสคืบหน้าตามที่กำหนดไว้

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน ประณามกล่าวหารัสเซียโจมตีตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่านในเมืองคอสเตียนตินิฟกา ซึ่งอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อวันพุธ (6 ก.ย.) และบอกว่า ปีศาจรัสเซียจะต้องพ่ายแพ้เร็วๆ นี้ เขาบอกว่าเชื่อว่า รัสเซียจงใจโจมตีพลเรือนใน “เมืองที่เงียบสงบ” แห่งนี้ เนื่องจากไม่มีหน่วยทหารตั้งอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุเลย

ตำรวจของเมืองนี้กล่าวว่า ตลาดมีผู้คนพลุกพล่านตอนที่ถูกโจมตีเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. รวมทั้งแผงขายของเกือบ 30 แห่ง อาคารอพาร์ตเมนต์ 1 แห่ง แบงก์ 1 แห่ง และรถหลายคันได้รับความเสียหาย

อิฮอร์ คลีเมนโก รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครน แถลงภายหลังเสร็จสิ้นปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยว่า พบผู้เสียชีวิต 17 คน และได้รับบาดเจ็บ 32 คน

เมืองคอนสเตียนตินิฟกา ที่เคยมีประชากรราว 70,000 คนก่อนการรุกรานของรัสเซียเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว อยู่ห่างจากเมืองบัคมุต ที่มีการสู้รบดุเดือดมานานหลายเดือนประมาณ 30 กิโลเมตร

ทางด้านรัสเซียไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ทันที แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมามักยืนกรานอยู่เสมอว่า ไม่มีจุดประสงค์เข้าโจมตีพลเรือน

ด้านสหภาพยุโรประณามรัสเซียว่า การโจมตีพลเรือนโดยเจตนาถือเป็นอาชญากรรมสงคราม เช่นเดียวกับ อันนาเลนา แบร์บ็อก รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การรุกรานของรัสเซียเป็นการโจมตีกฎหมายระหว่างประเทศและมนุษยชาติ

ส่วนที่กรุงวอชิงตัน แครีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกหญิงของทำเนียบขาว แถลงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตอกย้ำความสำคัญในการคงการสนับสนุนประชาชนยูเครนที่กำลังพยายามปกป้องอธิปไตยของชาติ

การโจมตีเมืองคอสเตียนตินิฟกา เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ รัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน ของสหรัฐฯไปเยือนยูเครนโดยไม่มีการเปิดเผยล่วงหน้า โดยบลิงเคนย้ำขณะพบหารือกับเซเลนสกี้ที่กรุงเคียฟว่า วอชิงตันจะยืนหยัดสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้เพื่อปลดแอกดินแดนทางภาคใต้และภาคตะวันออกที่ถูกรัสเซียยึดครอง รวมทั้งกล่าวยกย่องว่า ปฏิบัติการตอบโต้ของเคียฟมีความคืบหน้าสำคัญ

บลิงเคนยังประกาศความช่วยเหลือรอบใหม่ของสหรัฐฯที่มีมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นความช่วยเหลือทางการทหารและความปลอดภัยของพลเรือน 665.5 ล้านดอลลาร์ และ 175 ล้านดอลลาร์จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งก็รวมถึงการจัดส่งพวกกระสุนยูเรเนียมด้อยสมรรนะสำหรับรถถังเอบรามส์ ไปให้แก่ยูเครน นับเป็นครั้งแรกที่อเมริกาเตรียมจัดส่งกระสุนเจาะเกราะซึ่งมีพิษอันตรายนี้ให้เคียฟ

ทั้งนี้ กระสุนยูเรเนียมด้อยสมรรถนะเป็นผลพลอยได้จากการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม และใช้ผลิตกระสุนเนื่องจากมีความหนาแน่นสูงทำให้สามารถเจาะเกราะป้องกันได้ อย่างไรก็ดี กระสุนชนิดนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักว่า ก่อความเสี่ยงต่อสุขภาพแก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งรวมถึงการเป็นโรคมะเร็งและการเกิดความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ผ่านการกินหรือสูดดมผงยูเรเนียมด้อยสมรรถนะ

เซียร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย กล่าวหาอเมริการะหว่างการประชุมด้านความมั่นคงเมื่อวันพฤหัสฯ (7 ก.ย.) ว่า อเมริกากำลังก่ออาชญากรรมด้วยการจัดหากระสุนยูเรเนียมด้อยสมรรถนะให้ยูเครน รวมทั้งฟ้องว่า อเมริกาไม่สนใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้อาวุธนี้ในเขตสงคราม

รยาบคอฟยังย้ำคำเตือนของรัสเซียก่อนหน้านี้เกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์จาก “การกดดัน” ของตะวันตกต่อมอสโก และเสริมว่า การประจำการอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในเบลารุสคืบหน้าตามที่กำหนดไว้

สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียในวอชิงตันก็ประณามการตัดสินใจนี้เช่นกันว่า สะท้อนความโหดเหี้ยมของอเมริกาที่กำลังหลอกตัวเองด้วยการปฏิเสธที่จะยอมรับว่า ปฏิบัติการรุกตอบโต้ของยูเครนประสบความล้มเหลว

อนึ่ง เมื่อวันพุธเครมลินวิจารณ์ว่า การเยือนของบลิงเคนจะไม่มีผลใดๆ ต่อปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย และมอสโกเชื่อว่า อเมริกายังคงเดินหน้าแผนอัดฉีดกองทัพเคียฟให้สู้รบต่อจนกระทั่งถึงชาวยูเครนคนสุดท้าย

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น