เลือดขึ้นหน้า! สหรัฐฯ จ่อเป็นชาติที่ 2 จัดหากระสุนพิษ 'ยูเรเนียม' ให้ยูเครน

สหรัฐฯ เตรียมกลายเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากสหราชอาณาจักร ที่ไฟเขียวส่งมอบกระสุนยูเรเนียมด้อยสมรรถนะแก่ยูเครน ตามรายงานข่าวของรอยเตอร์ แม้มีความกังวลว่ากระสุนชนิดนี้จะก่อผลกระทบทางลบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม

กระสุนเหล่านี้ซึ่งมีความตั้งใจป้อนให้กองรถถังเอบรามส์ของสหรัฐฯ ถูกคาดหมายว่าชุดแรกจะเดินทางถึงยูเครนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ตามรายงานข่าวของรอยเตอร์อ้างอิงเจ้าหน้าที่อเมริกาที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามหลายคนและเอกสารฉบับหนึ่งในวันเสาร์ (2 ก.ย.)

รายงานของรอยเตอร์ระบุด้วยว่า กระสุนยูเรเนียมด้อยสมรรถนะ จะเป็นส่วนหนึ่งของการบริจาคความช่วยเหลือด้านอาวุธรอบใหม่มูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ที่คาดหมายว่าจะมีการแถลงในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ รายงานข่าวเกี่ยวกับแผนดังกล่าวมีขึ้นตามหลังความเคลื่อนไหวอันเป็นที่ถกเถียงอย่างสูงของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ นั่นคือการจัดหากระสุนคลัสเตอร์แก่ยูเครน ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างไม่เว้นแม้กระทั่งบรรดาพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดบางส่วนของวอชิงตัน และหากทำเนียบขาวอนุมัติกระสุนยูเรเนียมด้อยสมรรถนะแก่ยูเครน พวกเขาจะกลายเป็นชาติที่ 2 ต่อจากสหราชอาณาจักร ที่แถลงจัดหากระสุนแบบเดียวกันแก่เคียฟ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

การตัดสินใจของสหราชอาณจักรในครั้งนั้น ก่อความเดือดดาลแก่มอสโก โดย เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย บอกว่าการส่งมอบดังกล่าวจะทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายสู่ขั้นใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมมาก ในขณะที่สถานทูตรัสเซียประจำลอนดอน กล่าวหาสหรัฐฯ และพันธมิตรกำลังเปลี่ยนยูเครน ไม่ใช่แค่เป็นสนามยิงปืนต่อต้านรัสเซีย แต่ยังเป็นพื้นที่ฝังกลบกัมมันตภาพรังสีด้วย

ครั้งที่กระสุนมีพิษนี้ปรากฏตัวหนแรกในยูเครน ทางมอสโกเตือนสหราชอาณาจักรว่า จะต้อง "รับผิดชอบ" ต่อการก่ออันตรายที่ไม่อาจแก้ไขได้ ต่อทั้งพลเรือนและทหาร

อย่างไรก็ตาม ทั้งสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ต่างโต้แย้งเกี่ยวกับอันตรายทางสุขภาพที่เกี่ยข้องกับกระสุนยูเรเนียมด้อยสมรรถนะ ซึ่งใช้ยูเรเนียมด้อยสมรรถนะหนาแน่นสูงยกระดับขีดความสามารถในการเจาะเกราะของกระสุน และปฏิเสธผลการศึกษาต่างๆ ที่บ่งชี้ว่าอาวุธเหล่านี้เชื่อมโยงกับเคสผู้ป่วยมะเร็งและความผิดปกติโดยกำเนิดที่พุ่งสูงในอิรัก

ตามหลังความเคลื่อนไหวของสหราชอาณาจักร ทางประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แถลงว่ามอสโกจะตอบโต้ด้วยการประจำการอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในเบลารุส ประเทศเพื่อนบ้าน และเกี่ยวกับเรื่องนี้ ปูติน เน้นว่าความเคลื่อนไหวของมอสโกไม่ต่างจากการกระทำของสหรัฐฯ ที่ประจำการอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองใน 5 ชาติยุโรป

รัสเซียบอกว่าจะถอนอาวุธดังกล่าวออกจากเบลารุส หากว่าสหรัฐฯ ทำแบบเดียวกันกับขีปนาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขาในยุโรป และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เกี่ยวข้องกับอาวุธนิวเคลียร์เหล่านั้นด้วย

ผู้พวกสนับสนุนตะวันตกของยูเครน อ้างว่าพวกเขาไม่ได้มีส่วนร่วมโดยตรงในความขัดแย้งในยูเครน และหลีกเลี่ยงจัดหาอาวุธบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องบินขับไล่และขีปนาวุธพิสัยไกล บอกว่ามันเสี่ยงยั่วยุเกิดการเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซีย

แต่กระนั้น พวกเขาส่งมอบความช่วยเหลือด้านอาวุธแก่เคียฟแล้วกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ เพิกเฉยคำเตือนซ้ำๆ ของมอสโก ที่บอกว่าแพกเกจอาวุธในแต่ละครั้งจะผลักสหรัฐฯ และนาโตเข้าใกล้การมีส่วนร่วมในความขัดแย้งอย่างกระตือรือร้นมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้น การที่โดรนของยูเครนสามารถโจมตีเล่นงานพลเรือนรัสเซีย เท่ากับว่าตะวันตกได้กลายมาเป็นพวกผู้สนับสนุนก่อการร้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากคำกล่าวหาของวังเครมลิน

(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/รอยเตอร์)