ดับฝันเคียฟ!? สหรัฐฯ ยอมรับมีขีปนาวุธไม่มากพอสำหรับช่วยยูเครนเปลี่ยนกระแสสงคราม

สหรัฐฯ ไม่อยู่ในจุดที่จะจัดหาขีปนาวุธทางยุทธวิถีแก่ยูเครน ในปริมาณที่มากพอสำหรับช่วยเปลี่ยนกระแสของปฏิบัติการโจมตีตอบโต้รัสเซีย ตามรายงานของไฟแนนเชียลไทม์ส ในขณะที่หนังสือพิมพ์สัญชาติอังกฤษแห่งนี้ยังอ้างความเห็นของผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ตั้งข้อสงสัยว่าอาวุธชนิดนี้จะช่วยเคียฟบรรลุเป้าหมายทะลวงฝ่าแนวป้องกันสำคัญๆ ได้หรือไม่

ไฟแนนเชียลไทม์ส ระบุในรายงานชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (20 ส.ค.) อ้างความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่อเมริกาซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม อ้างว่าอเมริกาไม่สามารถผลิตขีปนาวุธทิ้งตัวทางยุทธวิธีได้มากพอตามที่ยูเครนร้องขอ สำหรับสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในสมรภูมิรบ

นอกเหนือจากนี้แล้ว รายงานของไฟแนนเชียลไทม์ส บอกด้วยว่าการพิจารณาจัดหาอาวุธดังกล่าวแก่ยูเครนอาจถูกขัดขวาง เนื่องจากบางส่วนมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจนำมาซึ่งความขัดแย้งที่ลุกลามบานปลายกับรัสเซีย

ซามูเอล ชาราป นักรัฐศาสตร์อาวุโสแห่งสถาบันวิจัย RAND Corporation ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแห่งนี้ จุดยืนของยูเครนเกี่ยวกับขีปนาวุธพิสัยไกลเป็นความมั่นใจผิดๆ โดยผู้เชี่ยวชาญรายนี้ชี้ว่าขีปนาวุธเหล่านี้ "ไม่ใช่ไม้กายสิทธิ์" ไม่น่าจะแก้ปัญหากับระเบิดนับร้อยนับพันที่ถูกวางเอาไว้ได้ เช่นเดียวกับสนามเพลาะแนวป้องกันของรัสเซียที่กองกำลังยูเครนกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน

ความเห็นของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางส่วนที่ให้สัมภาษณ์กับไฟแนนเชียลไทม์ส ดูเหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่าขอบเขตความช่วยเหลือด้านการทหารของสหรัฐฯ ที่มอบแก่ยูเครนอาจลดน้อยลง ในขณะที่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 คืบคลานเข้ามา ขณะเดียวกัน ความเป็นไปได้ที่โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน อาจได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัย ก็ซ้ำเติมความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเขาเคยประกาศซ้ำๆ ว่าจะยุติความขัดแย้งทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง

ขณะเดียวกัน ในเยอรมนี อีกหนึ่งชาติที่เคียฟร้องขอขีปนาวุธพิสัยไกล ผลสำรวจความคิดเห็นหนึ่งที่จัดทำโดย ARD-DeutschlandTrend และเผยแพร่ในวันศุกร์ (18 ส.ค.) พบว่า 52% ของผู้ตอบแบบสอบถามคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการจัดหาดังกล่าว และมีผู้เห็นด้วยแค่ 36%

จนถึงตอนนี้ บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเยอรมนี ในนั้นรวมถึงนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ดูเหมือนลังเลที่จะจัดหาขีปนาวุธทอรัสแก่ยูเครน ทั้งนี้ว่ากันว่าจรวดรุ่นนี้มีพิสัยทำการราว 500 กิโลเมตร

ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม สหราชอาณาจักรกลายเป็นชาติแรกที่จัดหาอาวุธประเภทนี้แก่ยูเครน โดยส่งมอบขีปนาวุธร่อน สตอร์ม ชาโดว์ ที่มีพิสัยทำการกว่า 250 กิโลเมตร ล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว ฝรั่งเศสเดินตามรอยจัดหาสตอร์ม ชาโดว์ เวอร์ชันท้องถิ่นที่มีชื่อว่า SCALP แก่ยูเครนเช่นกัน

มอสโกส่งเสียงเตือนบรรดาชาติตะวันตกซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อการส่งมอบอาวุธแก่ยูเครน โดยชี้ว่าการที่พวกเขาทำเช่นนั้นมันรังแต่จะทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อ และกลายมามีส่วนร่วมในทำสงครามตัวแทนกับรัสเซีย

(ที่มา : ไฟแนนเชียลไทม์ส)