ผู้บัญชาการทหารอินโดนีเซีย ปฏิเสธว่าไม่ได้ออกถ้อยแถลงร่วมใดๆ กับผู้บัญชาการทหารสหรัฐฯ ระหว่างเดินทางเยือนวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังเพนตากอนเผยแพร่ถ้อยแถลงฉบับหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นคำแถลงร่วมกับฝ่ายจาการ์ตา วิพากษ์วิจารณ์รัสเซียกับจีน
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (31 ส.ค.) ปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซีย กล่าวว่าถ้อยแถลงของสหรัฐฯ ไม่ได้สะท้อนจุดยืนของประเทศของเขา พร้อมเน้นย้ำว่าอินโดนีเซียเสาะหาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับทั้งรัสเซียและจีน
"ไม่มีถ้อยแถลงร่วมและการแถลงข่าวใดๆ สิ่งสำคัญสำหรับผมคือเน้นย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากับจีนนั้นดีมาก เราเคารพกันและกัน เรามีความเข้าใจกันและกัน และผมได้สื่อสารในเรื่องนี้ในสหรัฐฯ" เขากล่าว พร้อมบอกต่อว่า "เราเป็นมิตรใกล้ชิดกับจีน เราเคารพอเมริกา และเราเสาะหาความเป็นมิตรกับรัสเซีย"
ผู้บัญชาการทหารรายนี้กล่าวต่อมา เขาเตรียมแถลงแผนเดินทางเยือนปักกิ่งและมอสโกในอีกไม่กี่เดือนหน้าหน้า และส่งเสียงแสดงความหวังว่า จาการ์ตาจะสามารถเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างบรรดารัฐคู่อริทั้งหลาย
ในหนังสือราชการของเพนตากอน เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ใช้ชื่อว่า "ถ้อยแถลงร่วมระหว่างกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย" ได้ใช้สุ้มเสียงที่ต่างออกไป โดยมันอ้างว่าทั้งอเมริกาและอินโดนีเซีย "มีมุมมองร่วมกันว่า คำกล่าวอ้างทางทะเลอย่างกว้างขวางของสาธารณรัฐประชาชนจีนในทะเลจีนใต้ ไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ" พร้อมระบุต่อว่าทั้ง 2 ชาติขอ "ประณามร่วม" ต่อความเคลื่อนไหวต่างๆ ของรัสเซียในยูเครน และเรียกร้องให้ถอนทัพออกมาโดยสิ้นเชิงและอย่างไม่มีเงื่อนไข
หนังสือดังกล่าวมีขึ้นแม้กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย เน้นว่าการพบปะระหว่าง ซูเบียนโต กับ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ไม่ได้การพาดพิงเกี่ยวกับถ้อยแถลงร่วมใดๆ กับวอชิงตัน และไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับรัสเซียหรือจีน
ปักกิ่งรุดออกมาตำหนิถ้อยแถลงของสหรัฐฯอย่างรวดเร็ว โดยสถานทูตจีนประจำจาการ์ตา อ้างว่าความเห็นดังกล่าวไม่ได้รับความเห็นชอบล่วงหน้าจากบรรดาเจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย
"เราได้รับแจ้งจากฝ่ายอินโดนีเซีย ว่าสิ่งที่ฝ่ายสหรัฐฯ พูดถึงนั้นไม่เป็นความจริง ในข้อเท็จจริงคือ ไม่พบเนื้อหาเหล่านั้นในคำแถลงของฝ่ายอินโดนีเซีย จากที่ประชุมเดียวกัน" สถานทูตจีนบอกกับผู้สื่อข่าว พร้อมประณามสหรัฐฯ ที่พยายามหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความไม่ลงรอยและปลุกปั่นปัญหา
ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ ของซูเบียนโต ทั้ง 2 ประเทศ เห็นพ้องยกระดับความร่วมมือด้านการทหาร ในนั้นรวมถึงการซ้อมรบร่วม และการขายอาวุธเพิ่มเติมของอเมริกา ในขณะที่เพนตากอนบอกด้วยว่าวอชิงตันจะช่วยจาการ์ตา ขับเคลื่อนปรังปรุงกองทัพให้มีความทันสมัย เสนอยกระดับฝูงบินขับไล่ เครื่องบินรบอเนกประสงค์รุ่นใหม่ และอากาศยานขนส่งแบบปีกตรึงและปีกหมุน เช่นเดียวกับยุทโธปกรณ์อื่นๆ
ความเคลื่อนไหวที่เน้นย้ำความสัมพันธ์ด้านการทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียแถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับข้อตกลงจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบ็กฮอว์ก ซิคอร์สกี เอส-70 จำนวน 24 ลำ จากบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน ยักษ์ใหญ่ด้านอาวุธสัญชาติสหรัฐฯ และหลังจากน้้นไม่นาน จาการ์ตา ได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ F-15 จากโบอิ้ง อีก 24 ลำ
จาการ์ตากำลังดำเนินการยกเครื่องกองบินของตนเอง ซึ่งปัจจุบันพึ่งพาระบบจากประเทศต่างๆ หลายชาติ ในนั้นรวมถึงเครื่องบินขับไล่ของทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)