กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (26 ส.ค.) ว่าจีนได้ส่งเครื่องบินและเรือรบหลายสิบลำมุ่งหน้าเข้าหาเกาะ ไม่กี่วันหลังจากอเมริกาอนุมัติขายอาวุธรอบใหม่แก่ไทเปอีก 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่าอากาศยาน 32 ลำ จากกองทัพปลดแอกประชาชนจีน และเรือ 9 ลำ จากกองทัพเรือ ถูกตรวจพบในช่วง 24 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 06.00 น.ของวันศุกร์ (25 ส.ค.) จนถึง 6.00 น.ของวันเสาร์ (26 ส.ค.)
ในบรรดาเครื่องบินเหล่านี้ มีอยู่ 20 ลำ ที่ล่วงล้ำเส้นกลางของช่องแคบไต้หวัน หรือไม่ก็ละเมิดเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน ในขณะที่กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า พวกเขาได้มอบหมายให้อากาศยานของตนเอง เช่นเดียวกับกองเรือและระบบขีปนาวุธตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวต่างๆ ในครั้งนี้
จีน มองไต้หวันว่าเป็นมณฑลหนึ่งของตนเองที่แยกตัวออกไป และประกาศจะทำการทวงคืนโดยใช้กำลังถ้ามีความจำเป็น ในช่วงขวบปีที่ผ่านมา ปักกิ่งยกระดับการซ้อบรบทางทหารรอบๆ เกาะแห่งนี้ ตอบโต้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ ของไต้หวัน และล่าสุดกองทัพจีนได้ซ้อมรบรอบไต้หวันอีกครั้งในสัปดาห์ที่แล้ว ในฐานะเป็นการส่งสัญญาณเตือนอันดุดัน ตามหลังรองประธานาธิบดีไต้หวัน แวะพักในสหรัฐฯ ระหว่างการเดินทางเยือนปารากวัยอย่างเป็นทางการ
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยในวันพุธ (23 ส.ค.) ว่าได้อนุมัติความเป็นไปได้ในการขายระบบค้นหาและติดตามอินฟราเรด สำหรับเครื่องบิน F-16 แก่ไต้หวัน มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับยุทโธปกรณ์อื่นๆ
ต่อมา โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนระบุในวันศุกร์ (25 ส.ค.) ว่าจีนคัดค้านการขายอาวุธดังกล่าว โดยเรียกมันว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างหยาบช้า และให้คำจำกัดความว่าเป็นพฤติกรรมชั่วร้ายที่ละเมิดหลักการ "จีนเดียว" เช่นเดียวกับแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ 3 ฉบับ
โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนบอกด้วยว่าปักกิ่งขอเรียกร้องให้สหรัฐฯ ทำตามคำสัญญาที่เคยบอกไว้ว่าจะไม่สนับสนุนความเป็นเอกราชของไต้หวัน
(ที่มา : วอยซ์ออฟอเมริกา)