ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน แถลงขณะไปเยือนเนเธอร์แลนด์วันอาทิตย์ (20 ส.ค.) ยกย่องการตัดสินใจ “ครั้งประวัติศาสตร์” ที่ทางพันธมิตรตะวันตกจะจัดส่งเครื่องบินขับไล่แบบเอฟ-16 ไปให้เคียฟแล้วจริงๆ ขณะที่ทางด้าน 2 ชาติผู้ที่จะจัดส่ง ซึ่งได้แก่ เนเธอร์แลนด์และเดนมาร์กระบุว่าจะส่งมอบให้อย่างแน่นอนในทันทีที่บรรลุเงื่อนไขต่างๆ แล้ว
ความเคลื่อนไหวคราวนี้เกิดขึ้น 2 วันหลังจากสหรัฐอนุมัติให้เนเธอร์แลนด์และเดนมาร์กโอนเครื่องบินรบผลิตในสหรัฐฯ รุ่นนี้ไปให้แก่ยูเครนได้ โดยที่ทางการเคียฟร้องขอมานานแล้วว่าต้องการได้แสนยานุภาพทางอากาศเพิ่มมากขึ้นในการต่อกรกับรัสเซีย อีกทั้งความล่าช้าในเรื่องนี้ยังกลายเป็นเหตุผลข้ออ้างสำคัญประการหนึ่งซึ่งพวกผู้นำยูเครนหยิบยกขึ้นมาอธิบายว่า ทำไมการรุกตอบโต้ที่ยูเครนเปิดฉากขึ้นมาราว 10 สัปดาห์แล้วจึงยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร
นายกรัฐมนตรี มาร์ก รึตเตอร์ ของเนเธอร์แลนด์ กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับเซเลนสกีที่ฐานทัพอากาศในเมืองไอนด์โฮเฟน ว่า สามารถประกาศได้แล้วว่าเนเธอร์แลนด์กับเดนมาร์กให้คำมั่นสัญญาที่จะโอนเครื่องบินเอฟ-16 ให้แก่ยูเครน ด้วยความร่วมมือกับสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรอื่นๆ
เขาบอกว่าเนเธอร์แลนด์มีเอฟ-16 ทั้งหมดที่จะส่งมอบให้ได้ 42 ลำ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าจะบริจาคให้ทั้งหมดนี้หรือไม่ ขณะที่เซเลนสกีก็พูดเช่นกันว่า จำนวนที่แน่นอนจะมีการพูดคุยกันในอีกไม่นานจากนี้
เซเลนสกีเดินทางถึงเนเธอร์แลนด์ในวันอาทิตย์ โดยคาดว่าเขาจะต่อไปเดนมาร์กในวันเดียวกัน
ทั้งเนเธอร์แลนด์และเดนมาร์กเป็นผู้นำในการผลักดันที่ดำเนินมาเป็นแรมเดือนแล้วเพื่อฝึกอบรมพวกนักบินยูเครนให้บินเอฟ-16
รึตเตอร์ กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่าจะยังไม่มีการโอนเอฟ-16 ไปให้ยูเครนในทันที เนื่องจากต้องใช้เวลาในการฝึกนักบินยูเครนอย่างถูกต้องเหมาะสม รวมทั้งในการตระเตรียมพวกโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการใช้เครื่องบินเหล่านี้
“การฝึกทางทหารจะเริ่มขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้มากๆ และจากนั้นแน่นอนทีเดียวว่าจะต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งสำหรับการทำให้เครื่องบินเหล่านี้สามารถปฏิบัติการได้กับเหล่านักบินซึ่งผ่านการฝึกมาอย่างดี แต่เราจะทำทุกๆ อย่างเพิ่อให้มันเกิดขึ้นมาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” รึตเตอร์ บอก
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกลาโหม โอเลคซีย์ เรซนิคอฟ ของยูเครน พูดเอาไว้เมื่อวันเสาร์ว่า การฝึกได้เริ่มต้นขึ้นแล้วสำหรับพวกนักบินยูเครน แต่จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน และเป็นไปได้ว่าอาจยาวนานกว่านั้นอีกในการฝึกอบรมพวกวิศวกรและพวกช่างด้วย
การฝึกจะกระทำในเดนมาร์ก และโรมาเนีย พวกเจ้าหน้าที่จากกลุ่มพันธมิตรเพื่อการนี้ซึ่งมาจาก 11 ชาติระบุ
ยูเครนซึ่งคาดหมายว่าจะมีนักบินหลายสิบคนของตนได้รับการฝึก แถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ไม่คาดหวังว่าจะสามารถใช้เอฟ-16 ได้ทันฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาวปีนี้
เนเธอร์แลนด์ และเดนมาร์ก มีเอฟ-16 ที่จะบริจาคได้ เนื่องจากกองทัพของพวกเขากำลังเปลี่ยนไปใช้เครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่กว่า นั่นคือ เอฟ-35
อนึ่ง เมื่อวันเสาร์ (19) เซเลนสกีได้ไปเยือนสวีเดน ซึ่งเขาได้หารือถึงความเป็นไปได้ที่ยูเครนจะขอรับเครื่องบินขับไล่แบบกริพเพน ของประเทศนั้น
ในส่วนของปฏิกิริยาจากมอสโก รัฐมนตรีต่างประเทศเซียร์เก ลาฟรอฟ ของรัสเซีย เคยกล่าวเอาไว้ว่า จะถือเรื่องที่ฝ่ายตะวันตกจัดส่งเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ให้แก่ยูเครน เป็นภัยคุกคามทางนิวเคลียร์ เนื่องจากเครื่องบินแบบนี้มีศักยภาพในการบรรทุกอาวุธปรมาณู
สำหรับสถานการณ์ในด้านอื่นๆ รัสเซียแถลงว่าสามารถสกัดโดรนที่มุ่งโจมตีมอสโกและปริมณฑลเมื่อวันอาทิตย์ (20)
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า เมื่อเวลาราว 4.00 น. วันอาทิตย์ เคียฟพยายามส่งโดรนเข้าไปโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของมอสโกและปริมณฑล แต่ถูก “สงครามอิเล็กทรอนิกส์” ทำลายและตกลงในบริเวณที่ไม่มีคนอยู่อาศัย จึงไม่มีความเสียหายและไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
อย่างไรก็ดี สำนักงานการบินของรัสเซียเผยว่า ท่าอากาศยานนานาชาติ 2 แห่งของมอสโก คือ โดโมเดโดโว และนูโคโว ได้จำกัดการให้บริการชั่วคราวในช่วงคืนวันเสาร์ (19 ส.ค.) ก่อนเปิดให้บริการตามปกติ
แดนหมีขาวระบุว่า ยูเครนยังส่งโดรนโจมตีสถานีรถไฟในเมืองเคิร์สก์ ทางตะวันตกของรัสเซีย ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 5 คน และระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียสกัดโดรนยูเครนอีก 2 ลำในแคว้นรอสตอฟทางภาคใต้
รายงานการโจมตีด้วยโดรนระลอกล่าสุดนี้เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากยูเครนกล่าวหาว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองเชอร์นิฮีฟ ซึ่งเป็นเมืองประวัติศาสตร์ทางภาคเหนือของยูเครนเมื่อวันเสาร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน ซึ่งรวมถึงเด็กหญิงวัย 6 ปี และบาดเจ็บเกือบ 150 คน
ประธานาธิบดี เซเลนสกี ประกาศจะตอบโต้ “การก่อการร้าย” ของรัสเซียครั้งนี้
ผู้นำยูเครนแจงว่า มีผู้บาดเจ็บ 144 คน ซึ่ง 15 คนในจำนวนนี้เป็นเด็ก และยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 41 คน
อิฮอร์ คลีเมนโก รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครน โพสต์บนเทเลแกรมว่า เหยื่อส่วนใหญ่อยู่ในรถ กำลังเดินข้ามถนน หรือออกมาจากโบสถ์
เซเลนสกีสำทับว่า การโจมตีเชอร์นิฮีฟ เมืองที่มีถนนสวยงามและโบสถ์อายุนับร้อยปี เกิดขึ้นในวันฉลองพระเยซูเจ้าทรงแสดงพระวรกายรุ่งโรจน์ต่อหน้าอัครสาวก
เวียเชสลาฟ ชอส ผู้ว่าการแคว้นเชอร์นิฮีฟ กล่าวว่า ขีปนาวุธรัสเซียตกลงบริเวณโรงละครซึ่งมีการจัดประชุมตัวแทนจากภาคธุรกิจ ชุมชน และผู้ผลิตโดรน นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 500 หลัง
ผู้จัดการประชุมเล่าว่า ผู้ร่วมประชุมทั้งหมดที่รวมถึงวิศวกร ตัวแทนกองทัพ และอาสาสมัครได้รับการร้องขอให้เข้าไปหลบในที่หลบภัยการโจมตีทางอากาศในโรงละครตอนที่สัญญาณเตือนภัยดัง และทั้งหมดปลอดภัยดี อย่างไรก็ตาม มีบางคนวิ่งออกไปข้างนอก
ด้านเดนิส บราวน์ ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมสำหรับยูเครนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประณามว่า รัสเซียโจมตีอย่างโหดเหี้ยม เนื่องจากเป้าหมายการโจมตีคือจัตุรัสหลักของเมืองใหญ่ในช่วงเช้าที่ผู้คนออกมาเดินเล่นหรือไปโบสถ์เพื่อฉลองวันสำคัญทางศาสนา
บราวน์ยังประณามการโจมตีของรัสเซียต่อพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือนโดยตรงซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกัน เครมลินแถลงว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เดินทางไปยังเมืองรอสตอฟ-ออน-ดอน ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการการรบของรัสเซียในยูเครน เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปจาก วาเลรี เจอราซิมอฟ ประธานเสนาธิการทหาร และนายทหารระดับสูงคนอื่นๆ ซึ่งถือเป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่ปูตินเดินทางไปยังบริเวณที่อยู่ใกล้พื้นที่สงคราม
มอสโกไม่ได้ให้รายละเอียดว่าการประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด แต่จากคลิปของสื่อทางการสามารถระบุได้ว่า เป็นช่วงเวลากลางคืน
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)