สหประชาชาติต้องประณามสหรัฐฯ ฐานจัดหาอาวุธให้แก่ไต้หวัน เพราะว่า "พฤติกรรมยั่วยุเหล่านี้" เสี่ยงโหมกระพือความขัดแย้งครั้งใหญ่กับจีน จากความเห็นของ ยาเชสลาฟ โวโลดิน ประธานสภาผู้แทนราษฎรของรัสเซียในช่วงสุดสัปดาห์
โวโลดิน เขียนบนเทเลแกรมในวันเสาร์ (5 ส.ค.) อ้างว่า "วอชิงตันกำลังเตรียมการให้ไต้หวันเดินตามรอยชะตากรรมเดียวกับยูเครน" และดุด่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ "สหรัฐฯ การทำผิดพลาดอีกครั้ง" จากการมีแผนมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่เกาะปกครองตนเองแห่งนี้ โดยใช้เงินบางส่วนที่จัดสรรให้แก่ยูเครน
ประธานสภาผู้แทนราษฎรของรัสเซีย อ้างถึงรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ระบุว่าทำเนียบขาวเตรียมขอให้สภาคองเกรสเร่งให้การสนับสนุนทางอาวุธแก่ไทเป ในนั้นรวมถึงคำขอหนึ่งที่จะแบ่งปันจากงบประมาณที่มุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือยูเครนสู้รบกับรัสเซีย
โวโลดิน ระบุว่า หลังจากล้มเหลวในนโยบายยูเครน เวลานี้สหรัฐฯ กำลังหาทางไถ่บาปในความขัดแย้งใหม่ ในขณะที่วอชิงตันกำลังเผชิญหน้ากับความเสี่ยงสูญเสียความเป็นเจ้าโลก
ประธานสภาผู้แทนราษฎรของรัสเซีย กล่าวต่อว่าเวลานี้ปัญหาต่างๆ มากมายกำลังถาโถมเล่นงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้นเรื่อยๆ และด้วยคะแนนนิยมของไบเดน แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และผลโพลต่างๆ คาดหมายว่าเขาจะไม่ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี
นั่นหมายความว่า ไบเดน จำเป็นต้องยุแยงความขัดแย้งเกี่ยวกับไต้หวัน "เพื่อทำให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งชาวสหรัฐฯ ไขว้เขวจากปัญหาต่างๆ ภายในประเทศ" โวโลดินกล่าว พร้อมระบุ วอชิงตันเคยใช้กลยุทธ์ลักษณะนี้มาก่อนทั้งในยูโกสลาเวีย อัฟกานิสถาน ซีเรีย และยูเครน
ในความเคลื่อนไหวล่าสุด โวโลดิน เรียกร้องให้สหประชาชาติประณามพฤติกรรมยั่วยุของไบเดนในภูมิภาค "หากสหประชาชาติไม่มีศักยภาพในการสกัดความขัดแย้งต่างๆ และรับประกันความมั่นคงโลก เมื่อนั้นมันก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลมากที่องค์กรนี้จะเป็นเหมือนกับสันนิบาตชาติที่ตอนนี้ถูกยุบไปแล้ว" ประธานสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย อ้างถึงองค์กรก่อนหน้าสหประชาชาติ ซึ่งถูกยุบไปในปี 1946 ฐานล้มเหลวในการขัดขวางสงครามโลกครั้งที่ 2
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ อนุมัติเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในความช่วยเหลือด้านความมั่นคงมอบแก่ไต้หวัน ความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงประณามจากจีน ซึ่งกล่าวหาวอชิงตันกำลังเปลี่ยนเกาะแห่งนี้เป็น "ถังดินปืน"
จีน มองไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนอธิปไตยของพวกเขา และแม้บอกว่าอยากจะรวมชาติกับเกาะแห่งนี้อย่างสันติ แต่ก็ไม่ปฏิเสธเกี่ยวกับการใช้กำลังเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ในขณะที่เดียวกันสหรัฐฯ ซึ่งแม้อย่างเป็นทางการจะยึดถือนโยบายจีนเดียวและให้การรับรองรัฐบาลจีนหนึ่งเดียว แต่พวกเขาให้คำมั่นจะปกป้องไต้หวันในกรณีที่ถูกรุกราน
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)