xs
xsm
sm
md
lg

ใกล้เข้ามาแล้ว! ฟิทช์เรตติ้งหั่นความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ กังวลภาระหนี้สินมหาศาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฟิทช์เรตติ้ง สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือขั้นบนสุดของสหรัฐฯ ลง 1 ขั้นในวันอังคาร (1 ส.ค.) สู่ระดับ 'AA+' อ้างผลภาระหนี้สินของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และความสึกหรอในธรรมาภิบาล ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งระหว่างความขัดแย้งเกี่ยวกับข้อจำกัดหนี้สินของประเทศ

การตัดสินใจดังกล่าวโหมกระพือเสียงคัดค้านด้วยความเดือดดาลจากทำเนียบขาว โดย คารีน ฌอง-ปิแอร์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชน บอกว่ามันเป็นความเคลื่อนไหวที่สวนทางกับความเป็นจริง ส่วน เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงแยกกัน เน้นย้ำว่าเธอไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับฟิทช์เช่นกัน เรียกการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่าเป็นการทำตามอำเภอใจและอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลเก่าล้าสมัย

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ทศวรรษ ที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อหลักแห่งหนึ่งทำการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้ปัญหาทางตันขยายเพดานหนี้ในปี 2011 พบเห็นสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อ AAA ของวอชิงตัน เรียกเสียงเดือดดาลจาก 2 ฟากฝั่งทางการเมือง

ในช่วงวิกฤตหนี้ภาครัฐเมื่อปี 2011 สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส หั่นเครดิตอเมริกาลงหนึ่งระดับมาอยู่ที่ AA+ ไม่กี่วันหลังสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงเพดานหนี้ โดยอ้างถึงความขัดแย้งทางการเมืองและขั้นตอนต่างๆ ในการจัดการด้านการคลังของประเทศ

"อันดับความน่าเชื่อที่ถูกปรับลดของสหรัฐฯ สะท้อนความคาดหมายภาวะทรุดถอยทางการคลังที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า ภาระหนี้ของรัฐบาลระดับสูงและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และความสึกหรอในธรรมาภิบาลที่เกี่ยวข้องกับพวกผู้มีตำแหน่ง" ฟิทช์เรตติ้งระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันอังคาร (1 ส.ค.)

เยลเลน โต้แย้งว่าโมเดลเรตติ้งเชิงปริมาณของฟิทช์ ครอบคลุมระหว่างปี 2018 และ 2020 แต่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือแห่งนี้เพิ่งแถลงปรับลดอันดับในตอนนี้ แม้มาตรวัดต่างๆ บ่งชี้ถึงความก้าวหน้า นอกจากนี้ เธอยังอ้างอีกว่า "พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงมีความปลอดภัยและเป็นที่โดดเด่นในระดับโลก และรากฐานของเศรษฐกิจอเมริกามีความเข้มแข็ง"

ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ฟิทช์เรตติ้ง ได้นำความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ เข้าสู่เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch Negative) สะท้อนถึงความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังมีอิทธิพลเหนือการตัดสินใจขยายเพดานหนี้ ก่อนเค้าลางเส้นตายที่คืบคลานเข้ามา

แม้ต่อมาสภาคองเกรสได้บรรลุข้อตกลงระหว่าง 2 พรรค สำหรับหลีกเลี่ยงหายนะผิดนัดชำระหนี้ แต่ฟิทช์เรตติ้งยังคงสถานะสหรัฐฯ ในเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ

"ในมุมมองของฟิทช์ มีความเสื่อมทรามลงอย่างต่อเนื่องในมาตรฐานของธรรมาภิบาลตลอดช่วง 20 ปีหลังสุด ในนั้นรวมถึงประเด็นทางการคลังและหนี้สิน" สถาบันแห่งนี้ระบุในวันอังคาร (1 ส.ค.) "การเผชิญหน้าทางการเมืองเกี่ยวกับเพดานหนี้ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และการออกจากปัญหาในนาทีสุดท้าย ได้กัดเซาะความเชื่อมั่นในด้านการบริหารจัดการทางการคลัง"

นอกจากนี้ ฟิตทช์ยังอ้างถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯ ปราศจากกรอบการทำงานด้านการคลังในระยะกลาง และพบเห็นความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยในการจัดการกับความท้าทายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายด้านประกันสังคมและโปรแกรมประกันสุขภาพของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (Medicare) ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับอายุของประชากร

ในปีนี้ พวกรีพับลิกันขวาจัด ที่พรรคของพวกเขาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ตัดสินใจใช้การโหวตขยายเพดานหนี้ เป็นเครื่องงัดข้อบีบให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้องยอมตัดลดงบประมาณต่างๆ มากมายที่พรรคเดโมแครตวางเป้าหมายให้ความสำคัญกับการใช้จายในลำดับต้นๆ

มันโหมกระพือการทดสอบอำนาจทางการเมืองที่เสี่ยงจบลงด้วยความยุ่งเหยิง ก่อนทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงกันได้ในท้ายที่สุด

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น