ราคาน้ำมันและทองคำปรับลดในวันอังคาร (1 ส.ค.) หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน ท่ามกลางรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั้งหลายและความหวังที่มีต่อเศรษฐกิจอเมริกา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 43 เซนต์ ปิดที่ 81.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 52 เซนต์ ปิดที่ 84.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลหลักอื่นๆ เป็นตัวฉุดรั้งตลาดน้ำมัน ทั้งนี้ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ปัจจัยดอลลาร์แข็งค่านี้เองที่ฉุดให้ราคาทองคำในวันอังคาร (1 ส.ค.) ปรับลดเช่นกัน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 30.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,978.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันอังคาร (1 ส.ค.) ก่อนหน้าอเมริกาเผยแพร่ข้อมูลการจ้างงานและจับตารายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนทั้งหลายที่มีกำหนดเผยแพร่ในช่วงปลายสัปดาห์
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 71.15 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,630.68 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 12.23 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,576.73 จุด แนสแดค ลดลง 62.11 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,283.91 จุด
วอลล์สตรีทเคลื่อนไหวอย่างแข็งแกร่งตลอดทั้งเดือนกรกฎาคม นักลงทุนขานรับรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดหมาย และได้แรงหนุนจากความหวังเศรษฐกิจอเมริกาชะลอลงอย่างนิ่มนวล (Soft landing) โดยเวลานี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงยืดหยุ่น ในขณะที่เงินเฟ้ออ่อนตัวลงท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
เวลานี้คาดหมายว่าบริษัทจดทะเบียนทั้งหลายจะมีรายได้ไตรมาส 2 ลดลงจากหนึ่งปีก่อนหน้านี้ราว 5.9% จากเดิมที่ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คาดหมายว่าจะมีรายได้ลดลง 7.9%
(ที่มา : รอยเตอร์)