ราคาน้ำมันขยับขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือนรอบใหม่ในวันอังคาร (25 ก.ค.) ท่ามกลางสัญญาณอุปทานตึงตัว และเจ้าหน้าที่จีนสัญญาว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำปิดบวก จับตาการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยของที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ ปิดที่ 79.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ ปิดที่ 83.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในจีน ชาติผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก บรรดาผู้นำประกาศจะยกระดับสนับสนุนเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดีดตัวขึ้นไม่มากนัก ถูกฉุดจากข้อมูลทางเศรษฐกิจบางอย่างจากที่อื่นๆ ในั้นรวมถึงในยูโรโซน ที่พบว่ากิจกรรมภาคธุรกิจหดตัวเกินคาดในเดือนกรกฎาคม
ขณะที่ในสหรัฐฯ กิจกรรมภาคธุกิจชะลอตัวสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนในเดือนกรกฎาคม แต่ด้วยราคาปัจจัยการผลิตลดลงและการจ้างงานชะลอตัว บ่งชี้ว่าเฟดอาจมีความคืบหน้าในความพยายามลดเงินเฟ้อ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (25 ก.ค.) ปิดในแดนบวก ได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ และนักลงทุนจับตาการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงกลางสัปดาห์
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 26.83 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,438.07 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 12.82 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,567.46 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 85.69 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,144.56 จุด
หุ้นของเจเนอรัล อิเล็กทริก เชอร์วิน-วิลเลียมส์ และ 3เอ็ม ปิดตลาดในแดนบวก หลังเผยแพร่รายงานผลประกอบการ แต่เจนเนอรัล มอร์เตอร์ส ปิดลบ แม้ปรับเพิ่มประมาณการผลประกอบการตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาไปที่อัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล และไมโครซอฟท์ซึ่งต่างมีกำหนดเผยแพร่รายงานผลประกอบการหลังปิดตลาดในวันอังคาร (25 ก.ค.)
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังเฝ้ารอการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งจะมีการแถลงออกมาตามหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วัน ที่จะสิ้นสุดในวันพุธ (26 ก.ค.)
คาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 11 ติดต่อกัน และนักลงทุนจะมองหาเงื่อนงำว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมหรือไม่หลังจากนั้น
เช่นเดียวกับวอลล์สตรีท ราคาทองคำในวันอังคาร (25 ก.ค.) ปิดในแดนบวก เฝ้ารอการตัดสินใจของเฟด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,963.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)