ราคาน้ำมันปรับขึ้นในวันอังคาร (11 ก.ค.) จากความหวังอุปสงค์แข็งแกร่งขึ้นในบรรดาชาติกำลังพัฒนาและการตัดลดอุปทานของเหล่าผู้ส่งออกรายใหญ่ เช่นเดียวกับการอ่อนค่าของดอลลาร์ ปัจจัยหลังนี้ผลักทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่วอลล์สตรีทปิดบวก จับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทบวงพลังงานสากล (ไออีเอ) คาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันน่าจะยังคงตึงตัวต่อไปในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2023 อ้างอิงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในจีนและบรรดาประเทศกำลังพัฒนา ประกอบกับความเคลื่อนไหวปรับลดอุปทานเมื่อเร็วๆ นี้ ในนั้นรวมถึงจากบรรดาผู้ส่งออกรายใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน หนึ่งวันหลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลายคน ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางแห่งนี้ใกล้สิ้นสุดวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้ราคาน้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ และปัจจัยการอ่อนค่าของดอลลาร์นี้เองที่ผลักให้ราคาทองคำในวันอังคาร (11 ก.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 6.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,937.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (11 ก.ค.) ปิดในแดนบวก นักลงมุนมองในแง่ดีก่อนมีการเผยแพร่รายงานเงินเฟ้อที่สำคัญ ขณะเดียวกัน ได้แรงหรุนจากเจพีมอร์แดน และหุ้นกลุ่มการเงินอื่นๆ ก่อนเผยแพร่รายงานผลประกอบการรายไตรมาสในช่วงปลายสัปดาห์
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 317.02 จุด (0.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,261.42 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 29.73 จุด (0.67 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,439.26 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 75.22 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,760.70 จุด
นักลงทุนจับตามองเงื่อนงำเพิ่มเติมว่าแรงกดดันทางราคากำลังบรรเทาลงหรือไม่ และว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ใกล้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วหรือยัง
ข้อมูลราคาผู้บริโภคมีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (12 ก.ค.) ส่วนราคาผู้ผลิตมีกำหนดรายงานในวันพฤหัสบดี (13 ก.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดระบุในช่วงต้นสัปดาห์ว่า ธนาคารกลางแห่งนี้มีความเป็นไปได้ที่จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่ส่งสัญญาณว่าวงจรของการกระชับนโยบายทางการเงินใกล้สิ้นสุดแล้ว
(ที่มา : รอยเตอร์)