ราคาน้ำมันปรับขึ้นราว 3% ในวันพุธ (5 ก.ค.) หลังรัสเซียและซาอุดีอาระเบียแถลงลดกำลังผลิตเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำปิดลบ นักลงทุนทบทวนรายงานการประชุมเฟดหนล่าสุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ ปิดที่ 76.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ซาอุดีอาระเบีย ชาติผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก แถลงเมื่อวันจันทร์ (3 ก.ค.) ว่าจะสมัครใจลดกำลังผลิตเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวันไปจนถึงเดือนสิงหาคม ขณะเดียวกัน รัสเซียกับแอลจีเรียก็กำลังปรับลดกำลังผลิตและส่งออกที่ 500,000 บาร์เรลต่อวัน และ 20,000 บาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันพุธ (5 ก.ค.) นักลงทุนทบทวนรายงาน minutes ของการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หนล่าสุด และจับตาข้อมูลทางเศรษฐกิจอันสำคัญที่มีกำหนดเผยแพร่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ดาวโจนส์ ลดลง 129.83 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,288.64 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 8.77 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,446.82 จุด แนสแดค ลดลง 25.12 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,791.65 จุด
รายงาน minutes พบว่าบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดเห็นพ้องเป็นหนึ่งเดียวกันในการคงอตราดอกเบี้ยระหว่างการประชุมประจำเดือนมิถุนายน ในฐานะเป็นหนทางแห่งการซื้อเวลา และประเมินว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมจะมีความจำเป็นหรือไม่
หลังจากเฟดเผยแพร่รายงานดังกล่าว บรรดานักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดหมายว่าธนาคารกลางแห่งนี้จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมหนถัดไปในช่วงปลายเดือน พร้อมกับจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีกำหนดเผยแพร่ออกมาก่อนการประชุม ในนั้นรวมถึงข้อมูลภาคแรงงานรายเดือนของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (7 ก.ค.)
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (5 ก.ค.) ปิดในแดนลบ นักลงทุนจับตาแนวโน้มในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,927.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)