ราคาน้ำมันขยับขึ้นราว 1 ดอลลาร์ในวันพุธ (21 มิ.ย.) คาดอุปสงค์ในสหรัฐฯ แข็งแกร่งและจับตาประธานเฟดเข้าให้ปากคำต่อสภาคองเกรส ปัจจัยหลังนี้ฉุดให้วอลล์สตรีทและทองคำปิดในแดนลบ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.34 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าเงินในวันพุธ (21 มิ.ย.) หลัง เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บ่งชี้ว่าธนาคารกลางแห่งนี้ให้ถึงจุดหมายปลายทางด้านนโยบายแล้ว การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้น้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์บางส่วนที่จัดทำโดยรอยเตอร์ คาดหมายว่าคลังสำรองน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันจะลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้อุปสงค์แข็งแกร่งขึ้น
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (21 มิ.ย.) ปิดลบ การเข้าให้ปากคำต่อสภาคองเกรสของ พาวเวล เพิ่มมุมมองเกี่ยวกับเป้าหมายควบคุมเงินเฟ้อของธนาคารกลางแห่งนี้ พร้อมกับแย้มว่ามีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ดาวโจนส์ ลดลง 102.35 จุด (0.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,951.52 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 23.02 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,365.69 จุด แนสแดค ลดลง 165.10 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,502.20 จุด
ระหว่างให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พาวเวล เน้นย้ำข้อเท็จจริงที่ว่าธนาคารกลางแห่งนี้ยังคงมุ่งมั่นอย่างหนักแน่นในการฉุดอัตราเงินเฟ้อลงสู่ระดับเป้าหมาย 2% และบอกว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในอนาคต หากว่าเศรษฐกิจยังคงอยู่ในเส้นทางปัจจุบัน
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (21 มิ.ย.) ปรับลดเล็กน้อย หลัง พาวเวลคาดหมายว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในอนาคตข้างหน้า โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 2.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,944.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)