ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กำลังเดินไปตามเส้นทาง “ฆ่าตัวตาย” ในยูเครน และอาจดึงลากสหรัฐฯ “อย่างโง่เขลาเข้าสู่การเผชิญหน้า” กับรัสเซีย โอลิเวอร์ สโตน ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังของฮอลลีวูด กล่าวระหว่างเข้าร่วมรายการพอดแคสต์เมื่อเร็วๆ นี้
ขณะพูดในรายการของ รัสเซลล์ แบรนด์ คอมเมนเตเตอร์ชาวสหราชอาณาจักร ทางพอดแคสต์ “สเตย์ ฟรี” ซึ่งนำออกเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (28 ก.ค.) ที่ผ่านมา สโตนกล่าวประฌามว่า การสู้รบขัดแย้งในยูเครนเกิดจาก “ขบวนการอนุรักษนิยมใหม่ (neoconservative) ซึ่งเป็นผู้เริ่มสงครามขึ้นมาในอิรัก” และพวกนี้คือพวกที่ยังคงครองตำแหน่งสำคัญในคณะรัฐบาลไบเดนเวลานี้
“ไบเดนเป็นนักรบสงครามเย็นรุ่นเก่า แล้วเขาจงเกลียดจงชังจริงๆ ในสหภาพโซเวียตเก่า ซึ่งเขาสับสนอีกแล้วโดยนำมาปนเปกับสหพันธรัฐรัสเซีย ที่ไม่ได้เป็นคอมมิวนิสต์แต่อย่างใด” สโตน ผู้ได้รางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ 2 ตัวจากเรื่อง Platoon และเรื่อง Born on the Fourth of July กล่าวต่อ
“ดูเหมือนว่าเขากำลังดึงลากพวกเราอย่างโง่เขลาเข้าไปในการเผชิญหน้ากับมหาอำนาจที่จะไม่ยอมถอย ตรงนี้คือพรมแดน (ของรัสเซีย) นะ นี่คือโลกของพวกเขา แล้วนี่นาโตกำลังจะเข้าสู่ยูเครน นี่มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย”
สโตนเปิดเผยว่า เขาลงคะแนนให้ไบเดนในปี 2020 ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เวลานี้เขามองว่าคือ “ความผิดพลาด”
ตอนนั้น “ผมคิดว่าเขาเป็นคนแก่แล้วเวลานี้ ซึ่งจะทำให้เขาสงบเสงี่ยมลงมา นั่นจะทำให้เขามีความสุขุมมากขึ้น และอะไรทำนองนี้” สโตนบอก และเขากล่าวต่อไปว่า เวลานี้ สิ่งที่ตัวเขามองเห็นจากไบเดนก็คือ “บุรุษผู้ที่อาจจะไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบคณะรัฐบาลของตัวเขาเองด้วยซ้ำไป ใครจะไปรู้ล่ะ จริงไหม?”
ย้อนหลังไปในปี 2016 สโตนได้ผลิตภาพยนตร์สารคดีเรื่องหนึ่งใช้ชื่อว่า “Ukraine on Fire” (ยูเครนที่กำลังไฟลุกไหม้) โดยมุ่งอธิบายบทบาทของสหรัฐฯ ในการโค่นล้มประธานาธิบดีที่ผ่านการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตยของยูเครนในปี 2014 ซึ่งก็คือ วิกตอร์ ยานูโควิช สารคดีเรื่องนี้วิพากษ์วิจารณ์หนักต่อการที่นาโตขยายตัวไปทางตะวันออก การที่สหรัฐฯ อุปถัมภ์พวกนีโอนาซีชาวยูเครน และสงครามที่กระทำกับโดเนตสก์ และลูฮันสก์ โดย ปีออตร์ โปโรเชนโก ผู้ที่สหรัฐฯ หนุนหลังให้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสืบต่อจากยานูโควิช
ผู้กำกับชื่อก้องผู้นี้บอกกับ แบรนด์ ว่า การทำรัฐประหารโค่นล้มยานูโควิช “เป็นแผนการล้ำลึกมากๆ ซึ่งมุ่งหมายที่จะแทรกเข้าสู่สหพันธรัฐรัสเซีย”
สโตน แสดงอารมณ์ความรู้สึกเช่นนี้มาครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงหลายๆ ปีภายหลังสารคดีเรื่อง “Ukraine on Fire” ถูกนำออกฉาย “ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา ยูเครนก็ไม่ได้วางตัวเป็นกลางอีกต่อไปแล้ว ทว่าหันมาต่อต้านรัสเซีย และนั่นเป็นการทำลายความสมดุล” เขาเคยพูดกับ โปลิติกา หนังสือพิมพ์รายวันในเซอร์เบียเช่นนี้เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมกับบอกด้วยว่า “ทุกๆ สงครามต่างก็มีสาเหตุและผลพวงต่อเนื่อง”
ถึงแม้สโตนเป็นผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่อยมา รวมทั้งโหวตให้แก่ ไบเดน ซึ่งเป็นคู่แข่งจากพรรคเดโมแครตของทรัมป์ในปี 2020 แต่ความคิดเห็นเกี่ยวกับการสู้รบขัดแย้งในยูเครนกลับเป็นไปในทางเดียวกับของทรัมป์ โดยที่อดีตประธานาธิบดีซึ่งเป็นตัวเก็งที่จะได้เป็นผู้สมัครของพรรครีพับลิกันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2024 ก็ระบุชื่อพวกอนุรักษนิยมใหม่เช่นกันว่าเป็นสถาปนิกสำคัญของการสู้รบขัดแย้งนี้ เวลาเดียวกันก็กล่าวหาไบเดนว่ากำลังดึงลากสหรัฐฯ ให้เข้าสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3”
(ที่มา : อาร์ที, วิกิพีเดีย)