กองบัญชาการสหประชาชาติ (UNC) เริ่มเปิดเจรจากับเกาหลีเหนือเกี่ยวกับกรณีของ ทราวิส คิง (Travis King) พลทหารอเมริกันซึ่งวิ่งข้ามเส้นแบ่งพรมแดนเข้าไปฝั่งเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
คิง ซึ่งเป็นพลทหารสหรัฐฯ ที่ถูกส่งไปประจำการในเกาหลีใต้ วิ่งข้ามเส้นแบ่งเขตแดนโดยไม่ได้รับอนุญาตระหว่างที่ไปทัวร์เขตปลอดทหาร (demilitarized zone) เมื่อวันที่ 18 ก.ค. จนส่อเค้าว่าจะกลายเป็นปมขัดแย้งใหม่ในทางการทูตระหว่างวอชิงตันกับเปียงยาง
พล.ท.แอนดรูว์ แฮร์ริสัน ทหารอังกฤษซึ่งดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการ UNC ยืนยันว่า การเจรจาระหว่าง UNC และกองทัพเกาหลีเหนือได้เริ่มขึ้นแล้วผ่านกลไกซึ่งจัดตั้งขึ้นภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงในสงครามเกาหลี
“สิ่งที่เราเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือสวัสดิภาพของพลทหาร คิง” แฮร์ริสัน แถลงต่อสื่อมวลชน พร้อมปฏิเสธที่จะลงลึกถึงรายละเอียดของกระบวนการเจรจา
“การพูดคุยกับกองทัพเกาหลีเหนือถูกกระทำผ่านกลไกเจรจาตามข้อตกลงหยุดยิง... ผมยังไม่อยากพูดอะไรที่อาจจะกระทบต่อกระบวนการเจรจานี้”
สื่อเกาหลีเหนือก็ยังคงอุบเงียบเกี่ยวกับชะตากรรมของ ทราวิส คิง ทั้งที่โดยปกติแล้วมักจะมีการลงบทความวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ เมื่อมีพลเมืองอเมริกันถูกจับ
คิง วัย 23 ปี เคยก่อคดีทะเลาะวิวาทในเกาหลีใต้ และกำลังจะถูกส่งตัวกลับไปสหรัฐฯ เพื่อลงโทษทางวินัย ก่อนจะวิ่งหลบหนีเข้าไปฝั่งเกาหลีเหนือ
สหรัฐฯ พยายามติดตามชะตากรรมของพลเมืองรายนี้ ด้วยเกรงว่าเขาอาจถูกรัฐโสมแดงใช้เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อหรือต่อรองทางการเมือง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีค่อนข้างร้อนระอุ โดยสัปดาห์ที่แล้วเกาหลีเหนือได้ส่งสัญญาณท้าทายด้วยการยิงทดสอบขีปนาวุธ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่สหรัฐฯ ส่งเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธยูเอสเอส เคนตักกี (USS Kentucky) เข้ามาเทียบท่าเรือเมืองปูซาน
การมาเยือนเกาหลีใต้ครั้งแรกของเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์สหรัฐฯ ในรอบกว่า 40 ปีถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนระบอบ คิม ว่า วอชิงตันมีขีปนาวุธนิวเคลียร์พร้อมประจำการที่สามารถจู่โจมพวกเขาจากระยะใกล้ได้ตลอดเวลา
ที่มา : รอยเตอร์
