เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัว 2 ลูก ไปทางทิศตะวันออกในวันพุธ (19 ก.ค.) และทั้ง 2 ลูกดูเหมือนจะตกนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมแดนปลาดิบ ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นในขณะที่เรือดำน้ำขีปนาวุธติดอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ เข้าเทียบท่าเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1980
กองทัพสหรัฐฯ เปิดเผยว่าพวกเขาทราบเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือแล้ว และกำลังปรึกษาอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรและคู่หู
อย่างไรก็ตาม กองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของกองทัพสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงว่าการยิงดังกล่าวดูเหมือนจะไม่ก่อความเสี่ยงแบบทันทีทันใดกับอเมริกา หรือบรรดาพันธมิตร แต่เหตุการณ์ตอกย้ำถึงผลกระทบบั่นทอนเสถียรภาพของโครงการอาวุธผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือ
ยาซูคาสุ ฮามาดะ รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่นบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขีปนาวุธลูกแรกพุ่งแตะระดับความสูง 50 กิโลเมตร และบินเป็นระยะทาง 550 กิโลเมตร ส่วนลูกที่ 2 พุ่งสูงความสูง 50 กิโลเมตร และบินเป็นระยะทาง 600 กิโลเมตร พร้อมเผยว่าญี่ปุ่นได้ยื่นประท้วงคัดค้านการยิงขีปนาวุธ ผ่านช่องทางด้านการทูตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นเกือบ 1 สัปดาห์ หลังจากเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปล่าสุดของพวกเขา Hwasong-18 การยิงที่เปียงยางระบุว่าเป็นการส่งคำเตือนถึงสหรัฐฯ และบรรดาอริศัตรูทั้งหลาย
การยิงในวันพุธ (19 ก.ค.) มีขึ้น 1 วัน หลังจากเรือดำน้ำขีปนาวุธติดอาวุธนิวเคลียร์ลำหนึ่งของสหรัฐฯ เดินทางเยือนเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1980 ในขณะที่บรรดาพันธมิตรเปิดฉากเจรจากันเกี่ยวกับประสานงานตอบโต้ร่วมในกรณีที่เกิดสงครามนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือ
เคิร์ท แคมป์เบลล์ ผู้ประสานงานด้านอินโด-แปซิฟิกประจำทำเนียบขาว ยืนยันเกี่ยวกับการเยือนเกาหลีใต้ของเรือดำน้ำ ซึ่งถูกคาดหมายไว้อยู่ก่อนแล้ว หลังเคยแถลงในปฏิญญาร่วมฉบับหนึ่งในการประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดียุน ซุกยอล แห่งเกาหลีใต้ และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ในวอชิงตัน เมื่อเดือนเมษายน
"ในขณะที่เราแถลงกันอยู่นี้ เรือดำน้ำนิวเคลียร์ของอเมริกาลำหนึ่งกำลังเทียบท่าที่ปูซานในวันนี้ มันเป็นครั้งแรกที่เรือดำน้ำนิวเคลียร์สหรัฐฯ เดินทางมาเยือนในรอบหลายทศวรรษ" แคมป์เบลล์กล่าวระหว่างแถลงข่าวในกรุงโซล ดินแดนที่เขาเข้าร่วมประชุมคณะทำงานทวิภาคีปรึกษาทางนิวเคลียร์ Nuclear Consultative Group (NCG) กับบรรดาเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้
คณะทำงานชุดนี้ซึ่งมีเป้าหมายยกระดับประสานงานการตอบโต้ทางนิวเคลียร์ของพันธมิตร ในกรณีเกิดสงครามกับเกาหลีเหนือ ได้รับการจัดตั้งขึ้นระหว่างการประชุมซัมมิตเมื่อเดือนเมษายน ท่ามกลางเสียงเรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆ ในเกาหลีใต้สำหรับการมีอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง ก้าวย่างที่วอชิงตันคัดค้าน
เกาหลีเหนือ ซึ่งยิงขีปนาวุธข้ามทวีปลูกหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประณาม NCG เมื่อวันจันทร์ (17 ก.ค.) ว่าเป็น "การพูดคุยหารือกันอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์" และเตือนพันธมิตรเกี่ยวกับแผนยกระดับสำแดงแสนยานุภาพทางทหาร ในนั้นรวมถึงการเดินทางเยือนของเรือดำน้ำ
แคมป์เบลล์ ไม่ได้ระบุชื่อของเรือดำน้ำ แต่บอกว่าการเดินทางเยือนของมันแสดงให้เห็นถึงพันธสัญญาของสหรัฐฯ ที่มีต่อการปกป้องเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ยืนยันในเวลาต่อมาว่าเรือดำน้ำที่เดินทางมาถึงนั้น ได้แก่ ยูเอสเอส เคนทักกี
สหรัฐฯ ให้คำสัญญาจะประจำการสินทรัพย์ทางยุทธศาสตร์เพิ่มเติม เช่น เรือบรรทุกเครื่องบิน เรือดำน้ำ และเครื่องบินทิ้งระเบิดที่บินได้ในระยะไกลขึ้น เข้าไปเกาหลีใต้ เพื่อป้องปรามเกาหลีเหนือ ซึ่งพัฒนาขีปนาวุธที่ทรงอานุภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สามารถโจมตีเป้าหมายได้ไกลถึงอเมริกา
(ที่มา : รอยเตอร์)
