อย่าคิดว่าไม่กล้า! เกาหลีเหนือเดือดเตือนระวังเจอดี หลังสหรัฐฯ ส่งเรือดำน้ำขีปนาวุธนิวเคลียร์จ่อคาบสมุทร

เกาหลีเหนือประณามสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (10 ก.ค.) กรณีส่งเรือดำน้ำขีปนาวุธนิวเคลียร์เข้าสู่น่านน้ำใกล้คาบสมุทรเกาหลี ก่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ที่ขยับเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังอ้างด้วยว่าฝูงบินสอดแนมของสหรัฐฯ เมื่อเร็วๆ นี้ได้ละเมิดน่านฟ้าของพวกเขาใกล้ชายฝั่งทางตะวันตก ตามรายงานของสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ อ้างอิงถ้อยแถลงของโฆษกกระทรวงป้องกันประเทศระบุ "ไม่มีคำรับประกันว่าเหตุการณ์ช็อกหนึ่งๆ ซึ่งเครื่องบินลาดตระเวนทางยุทธวิธีของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ถูกยิงร่วงเหนือทะเลตะวันออกจะไม่เกิดขึ้น"

ถ้อยแถลงดังกล่าวได้อ้างอิงเหตุการณ์ในอดีตที่เกาหลีเหนือเคยยิงร่วงหรือสกัดอากาศยานสหรัฐฯ ตามแนวชายแดนติดกับเกาหลีใต้และนอกชายฝั่ง ทั้งนี้ เกาหลีเหนือคร่ำครวญบ่อยครั้งมาช้านานเกี่ยวกับเครื่องบินลาดตระเวนของสหรัฐฯ ใกล้คาบสมุทรเกาหลี

สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ระบุว่าความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ที่ส่งสินทรัพย์นิวเคลียร์ทางยุทธวิธีเข้าสู่คาบสมุทรเกาหลี คือการขู่กรรโชกทางนิวเคลียร์อย่างโจ่งแจ้งต่อเกาหลีเหนือและประเทศต่างๆ ในภูมิภาค และเป็นตัวแทนภัยคุกคามเลวร้ายที่มีต่อสันติภาพ

"มันขึ้นอยู่กับพฤติกรรมต่างๆ ของสหรัฐฯ ในอนาคต ว่าสถานการณ์ร้ายแรงแบบที่ไม่มีใครต้องการจะผุดขึ้นในภูมิภาคคาบสมุทรเกาหลีหรือไม่ และสหรัฐฯ จะต้องรับผิดชอบโดยสิ้นเชิงต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดใดๆ ที่เกิดขึ้น" ถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านสำนักข่าวเคซีเอ็นเอระบุ

เรือดำน้ำขีปนาวุธร่อนพลังงานนิวเคลียร์ลำหนึ่งของสหรัฐฯ เดินทางถึงท่าเรือปูซาน ประเทศเกาหลีใต้เมื่อเดือนที่แล้ว

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อเดือนเมษายน ผู้นำของทั้งเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เห็นพ้องต้องกันว่าเรือดำน้ำขีปนาวุธติดอาวุธนิวเคลียร์ลำหนึ่งของกองทัพเรืออเมริกาจะเดินทางเยือนเกาหลีใต้ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 แต่ไม่ได้ให้กรอบเวลาของการเดินทางเยือนดังกล่าว

การเดินทางเยือนนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนเพิ่มประจำการสินทรัพย์ทางยุทธวิธีของสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายตอบโต้การทดสอบอาวุธและการถูกคุกคามจากเกาหลีเหนืออย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมันได้รับความเห็นชอบจากผู้นำทั้ง 2 ประเทศ

ถ้อยแถลงของเกาหลีเหนือระบุว่าความเคลื่อนไหวล่องเรือดำน้ำนิวเคลียร์ "ก่อสถานการณ์หนึ่งที่เป็นอันตรายอย่างมาก ซึ่งสำหรับเราแล้วมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ยอมรับความเป็นจริงต่อสถานการณ์เลวร้ายสุดของการเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์"

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายน เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธวิธี B-52 ลำหนึ่งของสหรัฐฯ เข้าร่วมการซ้อมรบทางอากาศกับเกาหลีใต้ ในการสำแดงแสนยานุภาพ ตามหลังเกาหลีเหนือทำการปล่อยดาวเทียมสอดแนม แต่ล้มเหลวในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม

(ที่มา : รอยเตอร์)