xs
xsm
sm
md
lg

เจาะลึก : เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ ‘ไททัน’ ระเบิด ทำไมจึงวิเคราะห์ว่าผู้โดยสารและกัปตัน ‘ตายแบบไม่ทันจะรู้ตัว’ ในยานมรณะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้ขับเคลื่อนยานดำน้ำลึก แรนดี โฮลต์ (ขวา) ประสานงานกับเรือยานแม่ ขณะที่ โฮลด์ และ สตอคตัน รัช (ซ้าย) ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทโอเชียนเกต อยู่ในยานดำน้ำแอนไทโพดส์ของโอเชียนเกต ห่างราว 3 ไมล์จากชายฝั่งทะเลเมืองฟอร์ต ลอเดอร์เดล รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อ 28 มิถุนายน 2013 ทั้งนี้ สตอคตัน รัช ดิ้นรนที่จะสร้างธุรกิจยานดำน้ำเพื่อการท่องเที่ยว ต่อไปได้อีกเพียง 10 ปี ก็ประสบเหตุยานไททันระเบิดเพราะไม่สามารถต้านทานแรงบีบกดจากภายนอกเข้าสู่ภายในของยาน
มหาเศรษฐีพันล้านชาวอังกฤษ ฮามิช ฮาร์ดิง เร่าร้อนอย่างยิ่งที่จะได้ดำลงยังพื้นมหาสมุทรแอตแลนติกด้วยกันกับ “ไททัน” เพื่อสำรวจซากเรืออับปางไททานิก แต่ก็หวั่นในใจถึงความปลอดภัยของยานดำน้ำลึกขนาด 6.7 เมตรลำนี้ สกายนิวส์ได้ข้อมูลมาจากวิคเตอร์ เวสโคโว สหายสนิทนายหนึ่งของมหาเศรษฐี และสหายผู้นี้ก็ได้เตือนเขาถึงอันตรายไว้ทั้งหมดแล้ว กระนั้นก็ตาม ในที่สุดมหาเศรษฐีฮาร์ดิงตัดสินใจว่า ยานดำน้ำไททัน “ปลอดภัยพอใช้ได้” และจึงเดินหน้าด้วยสปิริตเข้มแข็งแห่งนักสำรวจ ก่อนจะเคลื่อนเข้าสู่กำมือของมัจจุราชอย่างง่ายดาย

มิใช่แต่เพียงมหาเศรษฐีฮาร์ดิงเท่านั้น กูรูจากฝรั่งเศสนาม พอล-อองรี นาร์เจอเลต นักสมุทรศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญข้อมูลเรือไททานิก ก็เป็นอีกรายหนึ่งที่หวาดหวั่นกังวลในยานดำน้ำลึกของบริษัทโอเชียนเกต เอ็กซ์พีดิชันส์

นักสำรวจมหาสมุทรชั้นแนวหน้าของโลกอย่างวิคเตอร์ เวสโคโว เล่าว่า ทั้งสองท่านมาหาเขา มาขอความเห็นจากเขาว่าควรไปกับยานดำน้ำไททันหรือไม่ ซึ่งเขาให้คำตอบว่า

“ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ขึ้นเรือดำน้ำนั้นแน่นอน”

นอกจากนั้น หนุ่มใหญ่ชาวอเมริกันนักสำรวจภูเขาและมหาสมุทร ให้สัมภาษณ์แก่สกายนิวส์ด้วยว่า ทุกคนในประชาคมนักสำรวจใต้ทะเลต่างมองตรงกันว่า มีความเสี่ยงที่เกิดจากการออกแบบยานดำน้ำไททัน

“พวกเราล้วนมีความกังวลใจ และโชคร้ายเหลือเกินที่สิ่งซึ่งเรากังวลใจได้กลายเป็นจริงขึ้นมา” วิคเตอร์ เวสโคโว กล่าวกับสกายนิวส์อย่างนั้น

ฮามิช ฮาร์ดิง มหาเศรษฐีพันล้านชาวอังกฤษ เร่าร้อนอย่างยิ่งที่จะได้ดำลงยังพื้นมหาสมุทรแอตแลนติกด้วยกันกับ “ไททัน” เพื่อสำรวจซากเรืออับปาง ไททานิก แม้จะหวั่นใจถึงความปลอดภัยของยานไททัน แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจเข้าร่วม  มหาเศรษฐีฮาร์ดิงมีฐานธุรกิจในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโดยส่วนตัวเขาเป็นนักบินเจ็ตที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี เขามีวิญญาณแห่งนักผจญภัยและนักสำรวจ และด้วยเงินทองอันมีมากมาย เขาจัดตั้งกลุ่มนักสำรวจ The Explorers Club ในนิวยอร์ก และได้เข้าร่วมกิจกรรมสำรวจและค้นพบสิ่งสำคัญของโลกหลายรายการ แม้เขาต้องจากโลกไปในหายนะครั้งนี้ แต่ก็นับว่าเขาได้ใช้ชีวิตเกินคุ้มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ยานดำน้ำลึกไททันถูกแรงกดดันของมวลน้ำมหาสมุทรที่บีบอัดด้วยน้ำหนักมหาศาล ซึ่งกลายเป็นแรงระเบิดเข้าไปฉีกขยี้ลำเรือ กลายเป็นหลายส่วน โดยที่ว่าส่วนของห้องโดยสารยังสูญหาย ส่งผลให้บุคคลทั้ง 5 รายในห้องโดยสารถูกประกาศว่าเสียชีวิต ได้แก่

ฮามิช ฮาร์ดิง มหาเศรษฐีและนักสำรวจชาวอังกฤษ วัย 58 ปี

ชาห์ซาดา ดาวูด มหาเศรษฐีนักธุรกิจอังกฤษเชื้อสายปากีสถาน วัย 48 ปี

ซูเลมาน ดาวูด บุตรชายวัย 19 ปี ของชาห์ซาดา ดาวูด

พอล-อองรี นาร์เจอเลต นักสมุทรศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านเรือไทนานิก ชาวฝรั่งเศส วัย 77 ปี ที่ลงไปสำรวจซากเรือมาแล้วหลายสิบครั้ง

สตอคตัน รัช ซีอีโอบริษัทโอเชียนเกต เอ็กซ์พีดิชัน ผู้ก่อตั้งธุรกิจและพัฒนายานดำน้ำลึกไททัน

ยานดำน้ำไททันขาดการติดต่อกับยานแม่ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว (11) หลังออกเดินทางไม่ถึง 2 ชั่วโมง และผู้เชี่ยวชาญคาดว่าปรากฏการณ์มวลน้ำมหาสมุทรบีบระเบิดเข้าไปทำลายยานดำน้ำไททัน น่าจะอุบัติขึ้นในวันเดียวกันนั้นเอง โดยวิเคราะห์จากสัญญาณชี้บ่งความผิดปกติที่ตรวจจับได้โดยระบบตรวจจับเสียงใต้น้ำของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา กระนั้นก็ตาม ปฏิบัติการค้นหายังเดินหน้าต่อ เอพีรายงาน

กองกำลังพิทักษ์ชายฝั่งแห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (22) ว่าบุคคลในยานดำน้ำไททันเสียชีวิตแล้วจากการระเบิดอันร้ายแรงถึงชีวิตที่อัดเข้าไปทำลายยาน ในเวลาเดียวกัน ยังมีปฏิบัติการค้นหาหลักฐานชี้บ่งรูปการว่าเกิดอะไรขึ้นในบริเวณใกล้จุดของซากอับปางไททานิก ณ ความลึก 3,800 เมตรใต้ผิวน้ำ

ที่ผ่านมา บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้เตือนแล้วว่าภายใต้แรงกดดันมหาศาล ณ ความลึกเกือบ 2 กิโลเมตรนั้น ลำเรือของไททันอาจถูกบีบระเบิดเข้าไปทำลาย ซึ่งจะส่งผลให้ทุกคนในยานดำน้ำนี้เสียชีวิตอย่างทันที

“ผมไม่คิดว่าคนทั่วไปจะเข้าใจถึงพลังงานที่เป็นปัจจัยของกระบวนการระเบิดทะลวงเข้าไปในลำเรือ” บ็อบ บัลลาร์ด หนึ่งในคณะสำรวจที่พบซากไททานิกเมื่อปี 1985 กล่าวกับเอบีซี พร้อมบอกว่า

“มันเกิดขึ้นฉับพลันและฉีกทุกสิ่งย่อยยับ”

บุคคลทั้ง 5 ที่อยู่ในห้องโดยสารของไททัน (จากซ้ายไปขวา) ได้แก่ ฮามิช ฮาร์ดิง มหาเศรษฐีและนักสำรวจชาวอังกฤษวัย 58 ปี - ชาห์ซาดา ดาวูด มหาเศรษฐีนักธุรกิจอังกฤษเชื้อสายปากีสถาน วัย 48 ปี - ซูเลมาน ดาวูด บุตรชายวัย 19 ปี ของชาห์ซาดา ดาวูด - พอล-อองรี นาร์เจอเลต นักสมุทรศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านเรือไทนานิก ชาวฝรั่งเศส วัย 77 ปี ซึ่งลงไปสำรวจซากเรือมาแล้วหลายสิบครั้ง และสตอคตัน รัช ซีอีโอของโอเชียนเกต
ขณะที่บริษัทโอเชียนเกต เอ็กซ์พีดิชั่น เจ้าของยานดำน้ำไททัน อวดว่ายานดำน้ำไททันมีห้องโดยสารรูปทรงกระบอกซึ่งให้พื้นที่กว้างขวางมาก และทำด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ นั้น พวกผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าโอเชียนเกตฉีกตัวออกจากเคบินรูปทรงกลมที่สร้างจากไทเทเนียม ซึ่งยานดำน้ำลึกส่วนใหญ่ใช้กันอยู่

แต่ประเด็นมีอยู่ว่า ยานดำน้ำทรงกลมเป็น “รูปทรงสมบูรณ์แบบ” เพราะแรงกดดันจากมวลน้ำจะกระทำต่อทุกจุดอย่างเท่ากัน ดร.คริส โรมัน แห่งสถาบันบัณฑิตศึกษาด้านสมุทรศาสตร์ มหาวิทยาลัยโรดไอแลนด์ บอกไว้กับเอพี

ดังนั้น ยานดำน้ำไททัน รูปทรงกระบอกความยาว 6.7 เมตร น้ำหนัก 10,432 กิโลกรัม ซึ่งมีพื้นที่ว่างสำหรับห้องโดยสารมากขึ้น อีกทั้งยังแออัดด้วยผู้โดยสารถึง 5 ที่นั่ง จึงทำให้ต้องรับแรงกดดันจากภายนอกมหาศาลยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ แรงกดดันของมวลน้ำในบริเวณที่ตั้งของซากอับปางไททานิก ณ ระดับความลึกจากผิวน้ำเกือบ 4 กิโลเมตร จึงมหาศาลถึงระดับที่ว่า พื้นผิวของยานแต่ละ 1 ตารางนิ้ว ต้องเผชิญกับแรงกดดันประมาณ 2,722 กิโลกรัมทีเดียว

ดร.อรุณ บัณศีล ศาสตราจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ แห่งมหาวิทยาลัยนอร์เทิร์น ยูนิเวอร์ซิตี เปรียบเทียบแรงกดดันอันมหาศาลดังกล่าวด้วยกำลังของปลาวาฬที่กัดไปบนร่างกายมนุษย์

พร้อมนี้ ดร.บัณศีล อธิบายบนเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยด้วยว่า การระเบิดเข้าไปฉีกยานดำน้ำไททันอยู่ในระดับรุนแรงอย่างยิ่งยวด ขณะที่ลำเรือแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยแรงกดดันมหาศาลจากด้านนอกนั้น พลังงานที่พุ่งเข้ากระแทกผู้ที่อยู่ในลำเรือทั้ง 5 ราย จึงมีปริมาณมโหฬาร ดังนั้นทุกคนจึงเสียชีวิตโดยทันที โดยไม่ทันได้รู้สึกถึงความเจ็บปวด และกระทั่งว่าไม่ทันที่จะตระหนักว่ามีอะไรฟาดฟันเข้าใส่ร่างกาย

ในเรื่องความฉับไวที่ร่างกายของบุคคลทั้ง 5 คนถูกทำลาย มีการอธิบายเพิ่มเติมว่า แม้ยานดำน้ำไททันมีลำเรือที่ฝังตัวเซ็นเซอร์ต่างๆ ซึ่งทนทานต่อแรงกดดันสูงบริเวณใกล้พื้นมหาสมุทร แต่เมื่อมีความผิดปกติใดๆ ปรากฏบนลำเรือ ผลที่ตามมาคือการระเบิดทะลวงเข้าถึงห้องโดยสารได้แทบจะทันที ภายใน 0.04 วินาที หรือก็คือ 40 มิลลิวินาทีกันเลยทีเดียว รองศาสตราจารย์เอริก ฟูซิล ผอ.ศูนย์ต่อเรือแห่งมหาวิทยาลัยแอดิเลดในออสเตรเลีย ให้ข้อมูลแก่เอพี

“เป็นไปได้ว่าผู้โดยสารอาจจะไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้น” รศ.ฟูซิล กล่าว

สตอคตัน รัช ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแห่งโอเชียนเกต ภูมิหลังของรัชมาจากแวดวงของอากาศยานและเทคโนโลยี แต่เขามาเอาดีด้านยานดำน้ำ โดยตั้งบริษัทขึ้นเมื่อปี 2009 โอเชียนเกตซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่วอชิงตันเริ่มให้บริการนำนักท่องเที่ยวลงไปชมซากอับปางของเรือไททานิกในปี 2021 โดยให้สัมภาษณ์แก่เอพีว่า มหาสมุทรกำลังสลายซากไททานิก โอเชียนเกตจึงต้องรีบจัดทำสารคดีเก็บไว้ก่อนที่ซากไททานิกจะสูญสลายไปหมดสิ้น ทั้งนี้ เขาบ่นไว้ว่าความริเริ่มสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่เขาพยายามพัฒนามักที่จะถูกขัดขวางด้วยข้ออ้างด้านความปลอดภัยซึ่งเข้มงวดเกินไป แต่ในที่สุดแล้วเขาก็ต้องพลีชีพให้แก่ผลงานนวัตกรรมการใช้คาร์บอน-ไฟเบอร์ประกอบลำเรือ แทนการใช้แผ่นเหล็กกล้าและไทเทเนียม ซึ่งเขาพิสูจน์ด้วยชีวิตแล้วว่าวัสดุที่เขานำมาใช้เพื่อให้ลำเรือมีน้ำหนักน้อยลงและสามารถเพิ่มพื้นที่สำหรับผู้โดยสารนั้น ไม่แข็งแกร่งได้อย่างยืนยาวดั่งที่คาดหมาย
สาเหตุหนึ่งที่สามารถสร้างความผิดปกติต่อลำเรือถูกอธิบายว่า ไททันออกปฏิบัติการดำดิ่งสู่ท้องมหาสมุทรแอตแลนติกมาแล้ว 20 กว่าเที่ยว ปัจจัยนี้เป็นแรงกดดันที่กระทบต่อลำเรือ แจสเปอร์ แกรม-โจนส์ รองศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมกลศาสตร์และมหาสมุทร ที่มหาวิทยาลัยพลิเมาท์ สหราชอาณาจักร กล่าววิเคราะห์ไว้กับเอพี พร้อมคำอธิบายว่า

“แรงกดดันที่กระทบต่อลำเรือสามารถทำให้วัสดุคาร์บอน-ไฟเบอร์ที่นำมาสร้างเป็นลำเรือ เกิดการแยกตัวเป็นชั้นๆ ไปตามแนวนอน”

ปัญหาประเด็นนี้หมายถึงความแข็งแกร่งของลำเรือไททันซึ่งอาจจะยังไว้วางใจไม่ได้นั่นเอง ปมตรงตี้โยงใยอยู่กับเรื่องที่ว่าวัสดุคาร์บอน-ไฟเบอร์สามารถนำมาใช้สร้างยานดำน้ำลึก เพื่อทดแทนวัสดุหลักจำพวกแผ่นเหล็กกล้าได้อย่างแท้จริงหรือไม่

ยานดำน้ำลึกไททันเริ่มปฏิบัติการสำรวจซากอับปางเรือไททานิก ตั้งแต่ 08.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน 2023 และแล้วหายนะของไททันก็อุบัติขึ้นตอน 09.45 น. เมื่อไททันขาดการติดต่อกับยานแม่ อย่างไรก็ตาม ทีมงานของโอเชียนเกต เอ็กซ์พีดิชัน ยังไม่แจ้งไปยังกองกำลังพิทักษ์ชายฝั่งสหรัฐอเมริกาจนกระทั่งเวลา 17.40 น. ในภาพนี้เป็นส่วนครึ่งท้ายของซากไททัน ซึ่งไม่ได้ถูกระเบิดแยกส่วน โดยมีผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่าโครงสร้างของส่วนนี้ไม่มีโพรงตรงกลางแบบห้องโดยสาร นอกจากนั้นยังมีช่องให้มวลน้ำมหาสมุทรสามารถเคลื่อนผ่านได้ ซากส่วนนี้ถูกพบนิ่งสนิทคาอยู่บนพื้นมหาสมุทร ใกล้ซากอับปางของไททานิก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (22)
ยานดำน้ำไททันเคยลั่นเสียงกร๊อบแกร๊บเมื่อคราวที่นำผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยวดำลงท้องทะเลทดสอบ ปี 2019

คาร์ล สแตนลีย์ ผู้เชี่ยวชาญยานดำน้ำลึกเชิงท่องเที่ยว เล่าออกอากาศในรายการข่าวซีเอ็นเอ็น เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา (23) ว่าเคยรับคำเชิญของ สตอคตัน รัช ซีอีโอแห่งโอเชียนเกต ไปทดสอบยานดำน้ำลึกไททัน เมื่อเมษายน 2019 ในน่านน้ำบาฮามา

หนุ่มใหญ่อเมริกันนามว่า สแตนลีย์ ซึ่งดำเนินธุรกิจยานดำน้ำเพื่อการท่องเที่ยวที่ประเทศฮอนดูรัส เล่าว่า ซีอีโอ รัช แจ้งล่วงหน้าว่าไททันจะมีเสียงลั่นกร๊อบแกร๊บอยู่บ้าง และเมื่อเข้าไปทดสอบจริงในทริปความลึกประมาณ 3,600 เมตร สแตนลีย์เล่าว่า ได้ยินเสียงกร๊อบแกร๊บเป็นระยะตลอดทริป แต่ สตอคตัน รัช ซึ่งทำหน้าที่กัปตันสามารถคุมสภาพการณ์ทุกอย่างได้ด้วยดี

อย่างไรก็ตาม เมื่อ สแตนลีย์ ทบทวนดูแล้ว ก็ตระหนักว่ายานดำน้ำลึกไททันน่าจะอันตรายเกินไป เพราะเสียงที่ได้ยินขณะอยู่ในไททันกลางมหาสมุทรนั้น “ฟังเหมือนมีความบกพร่องอยู่ในบางพื้นที่ของลำเรือ ซึ่งเป็นผลจากการได้รับแรงกดดันอันมหาศาล และบริเวณดังกล่าวกำลังถูกเบียดบดให้เสียหาย”

ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญสแตนลีย์จึงเขียนอีเมลไปหารัชเพื่อบอกถึงความกังวลใจ และเตือนให้รัชใช้เวลาพัฒนายานไททันให้มากขึ้น เพื่อให้แน่นอนว่ายานดำน้ำนี้ปลอดภัยจริง

อีเมลนี้ สแตนลีย์ทำการฟอร์เวิร์ดไปให้สื่อค่ายยักษ์คือ นิวยอร์กไทมส์ โดยอีเมลเตือนให้ซีอีโอของโอเชียนเกตตระหนักว่า เสียงกร๊อบแกร๊บดังชัดเจนเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาลำเรือบางจุดกำลังจะพัง

เหตุการณ์หายนะที่ยานดำน้ำแหลกสลายกลางทะเล เคยอุบัติขึ้นในปี 1963 เมื่อเรือดำน้ำ USS Thresher ของทางการสหรัฐฯ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ ถูกแรงกดดันจากมวลน้ำบีบจนลำเรือระเบิด ขณะทดสอบศักยภาพในการดำดิ่งเกินกว่าโปรแกรม โดยก่อนหน้าการทดสอบชะตาขาดดังกล่าว เรือดำน้ำลำนี้ประสบความล้มเหลวหลายครั้ง ในโศกนาฏกรรมเรือดำน้ำเทรเชอร์แตกย่อยยับ มีทหารและพลเรือนในลำเรือเสียชีวิต 129 ราย นอกชายฝั่งคาบสมุทรเคปค้อดของสหรัฐฯ

คาร์ล สแตนลีย์ (ขวา) ให้สัมภาษณ์แก่ ซีเอ็นเอ็นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23) ว่าเคยได้รับเชิญจากซีอีโอรัช แห่งโอเชียนเกต ให้ไปทดสอบยานดำน้ำลึกไททัน เมื่อเมษายน 2019 ในน่านน้ำบาฮามา และได้ยินเสียงกร๊อบแกร๊บเป็นระยะๆ ตลอดการดำดิ่งสู่พื้นมหาสมุทร ซึ่งชี้บ่งว่าลำเรือของไททันน่าจะมีบางพื้นที่ซึ่งกำลังจะพัง
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า


(ที่มา : สกายนิวส์ เอพี ซีเอ็นเอ็น นอร์ทอีสเทิร์น กลอเบิล นิวส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น