ใกล้ทุกขณะ! เปียงยางฮึ่มเรือดำน้ำนิวเคลียร์มะกันเทียบท่าเกาหลีใต้ เข้าเงื่อนไขตอบโต้ด้วยอาวุธปรมาณู

กระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือเตือนเมื่อวันพฤหัสบดี (20 ก.ค.) ว่าการเดินทางเยือนท่าเรือในเกาหลีใต้เร็วๆ นี้ของเรือดำน้ำศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ลำหนึ่งของสหรัฐฯ อาจเข้าเงื่อนไขทางกฎหมายที่เปียงยางจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เป็นการตอบโต้

ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติเกาหลีอยู่ในระดับต่ำสุดเท่าที่เคยมีมา ท่ามกลางการทูตที่หยุดชะงัก และคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เร่งเร้าให้ยกระดับพัฒนาอาวุธ ในนั้นรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี

สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ยกระดับสำแดงแสนยานุภาพด้านการทหารเป็นการตอบโต้ และเรือดำน้ำศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ลำหนึ่งของสหรัฐฯ เดินทางเยือนท่าเรือแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ในสัปดาห์นี้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1981

คัง ซุนนัม รัฐมนตรีกลาโหมของเกาหลีเหนือ ระบุว่า การเข้าเทียบท่าเมืองปูซาน ของเรือดำน้ำชั้นโอไฮโอลำหนึ่งของสหรัฐฯ "อาจเข้าเงื่อนไขของการใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่ระบุไว้ในกฎหมายของเกาหลีเหนือ ในด้านนโยบายกองกำลังทางนิวเคลียร์"

เมื่อปีที่แล้ว เกาหลีเหนือบังคับใช้กฎหมายนิวเคลียร์ที่ครอบคลุมหนึ่งๆ กำหนดสถานการณ์ต่างๆ ที่พวกเขาจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในนั้นรวมถึงการชิงลงมือโจมตีก่อนด้วยอาวุธนิวเคลียร์หากถูกคุกคาม

รัฐมนตรีกลาโหมเปียงยางระบุว่าการปรากฏตัวของเรือดำน้ำเป็นการกระทำการอย่างโจ่งแจ้งและเป็นภัยคุกคามโดยตรงกับเกาหลีเหนือ และมันหมายความว่ามีการประจำการอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในคาบสมุทรเกาหลีเป็นครั้งแรก หลัง 40 ปีแห่งการเผชิญหน้า "ฝ่ายกองทัพสหรัฐฯ ควรตระหนักว่าสินทรัพย์ทางนิวเคลียร์ของพวกเขาเข้าสู่น่านน้ำที่อันตรายสุดขั้ว"

ด้าน ยุน ซอค ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เดินทางเยี่ยมเยือนเรือดำน้ำในวันพุธ (19 ก.ค.) และเตือนเปียงยางว่าการใช้อาวุธนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือ "มันอาจนำมาซึ่งจุดจบระบอบการปกครองของพวกเขา"

เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ สามารถบรรทุกขีปนาวุธแบบทิ้งตัวไทรเดนท์ 2 สูงสุด 20 ลูก และโดยทั่วไปแล้วกองทัพเรือสหรัฐฯ จะไม่ยืนยันว่าเรือดำน้ำของพวกเขาบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ ก่อนทำการเดินทะเล

บรรดาพันธมิตรยังได้จัดประชุมคณะทำงานทวิภาคีปรึกษาทางนิวเคลียร์ Nuclear Consultative Group (NCG) เป็นครั้งแรกในกรุงโซลเมื่อวันอังคาร (18 ก.ค.) ในความพยายามยกระดับการตอบสนองร่วมกันต่อการโจมตีทางนิวเคลียร์ใดๆ โดยเกาหลีเหนือ

ฮอง มิน นักวิจัยจากสถาบันเกาหลีเพื่อการรวมชาติ บอกกับเอเอฟพีว่าดูเหมือนการประจำการเรือดำน้ำจะก่อความสั่นผวาแก่เกาหลีเหนือไม่น้อย

"สารของเปียงยางคือสหรัฐฯ และเกาหลีใต้กำลังดำเนินการในแนวทางที่กำลังผลักให้เกาหลีเหนือเข้าใกล้การพิจารณาใช้กรอบแนวทางการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของพวกเขา" เขากล่าว "ความเห็นของประธานาธิบดียุน ระหว่างตรวจเยี่ยมเรือดำน้ำ พาดพิงถึงจุดจบของระบอบปกครองเกาหลีเหนือ ดูเหมือนจะสั่นประสาทเปียงยางอย่างมาก กระตุ้นให้พวกเขาแสดงปฏิกิริยาก้าวร้าวกว่าเดิมมาก"

เกาหลีเหนือทำการทดสอบอาวุธต้องห้ามไปแล้วหลายรอบในปีนี้ โดย 2 หนในนั้นเป็นการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป Hwasong-18 ซึ่งเป็นขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็งใหม่ล่าสุดของพวกเขา

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้โซลและวอชิงตันยกระดับความร่วมมือด้านการป้องกันตนเองเป็นการตอบโต้ ทำการซ้อมรบร่วมด้านการทหารด้วยเครื่องบินล่องหนล้ำสมัย และทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์ต่างๆ ของสหรัฐฯ

วอชิงตันแถลงเป็นครั้งแรกว่าพวกเขาจะส่งเรือดำน้ำศักยภาพยิงขีปนาวุธติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ เข้าประจำการในคาบสมุทรเกาหลี ระหว่าง ยุน เดินทางเยือนสหรัฐฯ แบบรัฐพิธี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงประณามจากเกาหลีเหนือ

(ที่มา : เอเอฟพี)