หลายพื้นที่ทั้งในยุโรป เอเชีย และอเมริกาเหนือเตรียมพร้อมรับมือคลื่นความร้อน ซึ่งมีแนวโน้มทำให้อุณหภูมิสูงพุ่งทะลุปรอทชนิดทำลายสถิติ โดยที่ทางการในบริเวณต่างๆ ออกประกาศเตือนภัยด้านสุขภาพ และคำแนะนำให้อพยพ
องค์การอวกาศยุโรปคาดว่า สัปดาห์นี้ยุโรปจะเผชิญอากาศร้อนสูงสุดเป็นประวัติการณ์บนเกาะชิชิลี และซาร์ดิเนียของอิตาลี โดยคาดกันว่า อุณหภูมิจะสูงถึง 48 องศาเซลเซียส
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขอิตาลี ออกคำเตือน 16 เมือง ซึ่งรวมถึงกรุงโรม ฟลอเรนซ์ และโบโลญญา โดยคาดหมายว่าอากาศจะร้อนจัดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทั้งนี้ อุณหภูมิที่โรมจะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียสในวันจันทร์ (17 ก.ค.) และ 42-43 องศาเซลเซียสในวันอังคาร (18 ก.ค.) ทำลายสถิติร้อนที่สุดของเดิมซึ่งอยู่ที่ 40.5 องศาเซลเซียส ที่บันทึกไว้ในเดือนสิงหาคม 2007
ส่วนที่สเปน นักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า จะเกิดคลื่นความร้อนระลอกใหม่ระหว่างวันจันทร์ถึงวันพุธ (17-19 ก.ค.) และอุณหภูมิบนหมู่เกาะคานารี และแอนดาลูเซีย ทางใต้จะทะลุ 40 องศาเซลเซียส
อย่างไรก็ดี ที่เกาะลา ปาลมา อุณหภูมิลดลงเมื่อวันเสาร์ (15 ก.ค.) ช่วยให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงดับไฟป่าที่เผาผลาญพื้นที่ 5,000 เอเคอร์ในช่วงสุดสัปดาห์ และต้องอพยพประชาชน 4,000 คนออกจากพื้นที่
ข้ามมาทางอเมริกา สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นดับเบิลยูเอส) เตือนว่า คลื่นความร้อนที่รุนแรงและครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางในรัฐทางใต้และตะวันตกกำลังจะถึงจุดสูงสุด นอกจากนี้ ยังมีการออกประกาศเตือนเมื่อวันอาทิตย์เกี่ยวกับสภาพอากาศร้อนจัดและสภาพอากาศร้อนครอบคลุมประชาชนกว่า 80 ล้านคน
อุณหภูมิที่หุบเขาเดธแวลลีย์ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ร้อนที่สุดในโลก เมื่อบ่ายวันอาทิตย์อยู่ที่ 52 องศาเซลเซียส ใกล้แตะสถิติสูงสุด ขณะทางใต้ของรัฐนี้กำลังต่อสู้กับไฟป่าหลายจุด
ทางการระบุว่าปรากฏการณ์โดมความร้อนที่กำลังทำให้เกิดคลื่นความร้อนรุนแรงทางตอนใต้และภาคตะวันตกของอเมริกา ยังส่งผลให้เกิดฝนตกหนักทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และเอ็นดับเบิลยูเอสคาดว่า จะยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องไปอีกหลายวัน หรืออาจหลายสัปดาห์
สำหรับทางเอเชีย ทางการญี่ปุ่นออกคำเตือนให้ระวังโรคลมแดดสำหรับประชาชน 10 ล้านคนใน 20 จังหวัดจาก 47 จังหวัดทั่วประเทศ ขณะที่อุณหภูมิสูงขึ้นใกล้ถึงสถิติสูงสุด พร้อมมีฝนตกหนักในภูมิภาคอื่นๆ
สถานีโทรทัศน์และวิทยุแห่งชาติเอ็นเอชเค เตือนภัยสภาพอากาศร้อนที่อาจอันตรายถึงชีวิต โดยอุณหภูมิในโตเกียว และอีกหลายพื้นที่สูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส และสำนักอุตุนิยมวิทยาระบุว่า อุณหภูมิอาจพุ่งทำลายสถิติสูงสุดเดิมซึ่งวัดได้ที่ 41.1 องศาเซลเซียสในเมืองคุมางายะ ในปี 2018
ท่ามกลางสภาพร้อนจัดในหลายพื้นที่ บางส่วนของเอเชียต้องเผชิญฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
ที่เกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งค้นหาผู้ที่ติดอยู่ในอุโมงค์ที่น้ำท่วมหลังฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มที่มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 40 คน
เกาหลีใต้ขณะนี้อยู่ในช่วงที่มีฝนตกหนักที่สุดในฤดูมรสุมหน้าร้อน โดยคาดว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องจนถึงวันพุธ
ทางเหนือของญี่ปุ่นมีผู้พบศพชายคนหนึ่งในรถที่ถูกน้ำท่วมเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากมีผู้เสียชีวิต 7 คนในสภาพอากาศเดียวกันนี้ทางตะวันตกเฉียงใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนที่อินเดีย ฝนที่ตกหนักและต่อเนื่องทางภาคเหนือทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 90 คน หลังจากเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดก่อนหน้านั้น
อุทกภัยรุนแรงและดินถล่มเป็นเหตุการณ์ที่พบทั่วไปในช่วงฤดูมรสุมของอินเดีย กระนั้น ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำให้เกิดภัยพิบัติธรรมชาติบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น
ด้านจีนออกประกาศเตือนสภาพอากาศร้อนหลายฉบับเมื่อวันอาทิตย์ เช่น ที่ซินเจียง ที่คาดว่าอุณหภูมิจะอยู่ที่ 40-45 องศาเซลเซียส และ 39 องศาเซลเซียสในเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงแห่งกว่างซี
ทั้งนี้ แม้ยากที่จะระบุได้อย่างแน่นอนชัดเจนว่า สภาพอากาศใดที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ แต่นักวิจัยหลายคนยืนยันว่า ภาวะโลกร้อนคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ซึ่งทำให้คลื่นความร้อนรุนแรงขึ้น
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)