สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ออกถ้อยแถลงร่วม ระบุว่า ชาติสมาชิกอาเซียนบางส่วนเห็นประโยชน์จากแนวทางการทูตของไทยต่อเมียนมาร์เมื่อไม่นานมานี้ รวมถึงการที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทยไปพบกับนางอองซานซูจี ผู้นำรัฐบบาลพลเรือนของเมียนมาร์ที่ถูกกักขัง
ถ้อยแถลงดังกล่าวออกมาเมื่อวันพฤหัสบดี (13) โดยเป็นการสรุปการประชุมของรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศในอาเซียนที่กรุงจาการ์ตา ระหว่างวันที่ 11-12 กรกฎาคม
เมื่อวันพุธ (12) นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทยแจ้งว่าได้ไปพบกับนางอองซานซูจีในการเยือนเมียน์มาร์ครั้งที่ผ่านมาของเขา นายดอนยังย้ำด้วยว่า ไทยมีจุดยืนสนับสนุนการเจรจากับรัฐบาลทหารของเมียนมาร์ แตกต่างจากอินโดนีเซียและสมาชิกอาเซียนรายอื่นที่แสดงจุดยืนแข็งกร้าวกับรัฐบาลเมียนมาร์
ถ้อยแถลงร่วม ระบุว่า ชาติสมาชิกอาเซียนบางส่วนมองกิจกรรมของไทยต่อเมียนมาร์เมื่อเร็วๆ นี้เป็น "พัฒนาการในเชิงบวก" แต่ระบุว่า ยังมีความเห็นไม่ตรงกันในประเด็นนี้อยู่ และไม่ได้พูดถึงการพบกันระหว่างนายดอนและนางอองซานอย่างเจาะจง
ถ้อยแถลงนี้ ยังเน้นย้ำด้วยว่า ความพยายามทางการทูตใดๆ ก็ตามควรเริ่มจากการประสานงานกับประธานอาเซียน ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการเตือนไทยให้เคารพตำแหน่งประธานอาเซียนด้วย
อย่างไรก็ตาม ชาติสมาชิกอาเซียนยังคงมีการประณามรัฐบาลเมียนมาร์ที่ใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยอยู่
ถ้อยแถลง ระบุว่า อาเซียนจะตรวจสอบความคืบหน้าในข้อตกลงฉันทมติ 5 ข้อที่ทำกับเมียนมาร์ เช่น การหยุดใช้ความรุนแรง และรายงานผลการตรวจสอบในกาประชุมซัมมิตของอาเซียน
ส่วนในเรื่องสถานการณ์ยูเครน อาเซียนเน้นย้ำถึงความสำคัญของการยุติการกระทำอันไม่เป็นมิตรในทันทีและสนับสนุนการเจรจาเพื่อยุติสงครามอย่างสันติ แต่สมาชิกอาเซียนยังคงเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซียอยู่
ที่มา : Asia Nikkei