ไมโครซอฟท์และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯระบุ กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับทางการจีนแอบเจาะระบบรักษาความปลอดภัยเข้าสู่บัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่ในองค์กรราว 25 แห่ง ซึ่งรวมถึงหน่วยงาน 2 แห่งของรัฐบาลอเมริกันที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อดำเนินการกับจีน ด้านปักกิ่งโต้กลับบอกวอชิงตันเป็นจักรวรรดิแฮกเกอร์และโจรไซเบอร์ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ดี การพบปะหารือระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกัน กับ หวัง อี้ นักการทูตระดับท็อปของจีน ในวันพฤหัสบดี (13 ก.ค.) ยังคงเดินหน้าต่อไปตามกำหนดเดิม
บลิงเคน กับ หวัง เจรจากันในวันพฤหัสบดีคราวนี้ ที่กรุงจาการ์ตา, อินโดนีเซีย โดยเป็นการหารือข้างเคียงการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของสมาคมอาเซียน และถือเป็นการพบปะกันของนักการทูตระดับสูงของสองประเทศเป็นครั้งที่สองในรอบเวลาไม่ถึง 1 เดือน
ทั้งนี้ ตัวบลิงเคนเพิ่งเดินทางไปปักกิ่งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการไปเยือนของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯครั้งแรกในรอบเวลาเกือบ 5 ปี โดยเขาได้เข้าพบทั้งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง รวมทั้งได้หารือกับ หวัง และรัฐมนตรีต่างประเทศ ฉิน กัง ของจีน
หวัง ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ปัจจุบันเลื่อนขึ้นไปเป็นสมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เป็นผู้อำนวยการคณะกรรมการกิจการต่างประเทศของพรรคแล้ว เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนจีนเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนคราวนี้ เนื่องจาก ฉิน ป่วย ทั้งนี้ตามการแถลงของกระทรวงการต่างประเทศในกรุงปักกิ่ง
การเจรจากันระหว่าง บลิงเคน กับ หวัง คราวนี้ยังคงเดินหน้าต่อไปตามนัดหมาย หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและบริษัทไมโครซอฟท์ เพิ่งออกมาระบุว่า ตรวจพบกลุ่มแฮกเกอร์จีนแอบเจาะระบบรักษาความปลอดภัยเข้าสู่บัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่ในองค์กรต่างๆ ของสหรัฐฯ
ทั้งนี้เมื่อวันพุธ (12) เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์รายการกู๊ด มอร์นิ่ง อเมริกา” ของเครือข่ายโทรทัศน์เอบีซีของสหรัฐฯ ว่า สหรัฐฯตรวจพบเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างรวดเร็วและจัดการป้องกันไม่ให้ถูกเจาะระบบซ้ำ
ขณะที่ แอดัม ฮอดจ์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ยืนยันว่า การเจาระบบรักษาความปลอดภัยคลาวด์ในไมโครซอฟท์ครั้งนี้ ส่งผลต่อระบบที่ไม่มีข้อมูลชั้นความลับ และไม่มีข้อมูลถูกขโมยออกไป
ด้านวอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯซึ่งรับรู้เรื่องนี้ว่า บัญชีอีเมลของ จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์ และบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศหลายคนถูกแฮก
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯนั้น สร้างความขุ่นเคืองให้จีนจากการกำหนดมาตรการควบคุมการส่งออกด้านเทคโนโลยีให้แก่จีน
เวลาต่อมา ทั้งกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงว่า หน่วยงานของกระทรวงฯ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ แต่สำทับว่า ดำเนินการแก้ไขทันทีที่ได้รับแจ้งจากไมโครซอฟท์
เจ้าหน้าที่อเมริกันผู้หนึ่งเผยว่า การเจาะระบบพุ่งเป้าที่นักการทูตและเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่รับผิดชอบการติดต่อดำเนินการกับจีนโดยตรง และแม้กระทรวงการต่างประเทศรับรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายน แต่ยังคงเดินหน้าแผนการเยือนปักกิ่งของรัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน ตามกำหนดเดิมในเดือนเดียวกัน แต่มีการใช้กระบวนการรักษาความปลอดภัยข้อมูลเข้มงวดขึ้น ซึ่งรวมถึงการกำหนดให้คณะเดินทางต้องใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าราคาถูกที่ทิ้งได้ขณะอยู่ในจีน
ด้านไมโครซอฟท์แถลงว่า เริ่มตรวจสอบกิจกรรมผิดปกติเกี่ยวกับอีเมลในวันที่ 16 มิถุนายน และหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์จึงพบว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อว่า สตอร์ม-0558 ปลอมโทเคนยืนยันตัวตนดิจิตอลเพื่อเข้าสู่บัญชีเว็บเมลที่รันบนโปรแกรมเอาต์ลุคในองค์กรราว 25 แห่งตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และบริษัทได้ติดต่อองค์กรที่เป็นเป้าหมายการโจมตีทั้งหมดโดยตรงผ่านทางผู้ดูแลระบบขององค์กรเหล่านั้น เพื่อให้ข้อมูลสำคัญในการตรวจสอบและรับมือ
ไมโครซอฟท์ไม่ได้ระบุว่า องค์กรใดหรือรัฐบาลประเทศใดที่ถูกเจาะระบบ แต่บอกว่า กลุ่มแฮกเกอร์เกี่ยวข้องกับเป้าหมายที่เป็นหน่วยงานรัฐบาลในยุโรปตะวันตกเป็นหลัก และมุ่งสอดแนม ขโมยข้อมูล และเข้าถึงข้อมูลประจำตัว
สำหรับปฏิกิริยาจากฝ่ายจีน สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำลอนดอน ออกมาเรียกข้อกล่าวหาคราวนี้ว่า เป็น “การสร้างข่าวเท็จ และเรียกรัฐบาลสหรัฐฯว่าเป็น “จักรวรรดิแห่งแฮกเกอร์รายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นโจรไซเบอร์ระดับโลก”
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)