เกาหลีเหนือเมื่อวันอังคาร (11 ก.ค.) ประณามการตัดสินใจของประธานาธิดบีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่จะมอบกระสุนคลัสเตอร์ให้ยูเครน ว่าเป็น "การกระทำผิดทางอาญา" และเรียกร้องให้ถอนแผนดังกล่าวในทันที โดยชี้ว่ามันจะนำหายนะครั้งใหม่มาเยือนโลกใบนี้
โช ซอน ฮุย รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) "ในข้อเท็จจริงที่ว่า ไบเดน ยอมรับเองว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก มันเป็นการแสดงให้เห็นว่าเขาทราบถึงผลลัพธ์หายนะของการใช้กระสุนคลัสเตอร์เป็นอย่างดี"
"ดิฉัน ในนามของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่เสนอมอบอาวุธทำลายล้างสูง (weapons of mass destruction) แก่ยูเครน ว่าเป็นการกระทำผิดทางอาญาที่เป็นอันตราย ที่จะนำพาหายนะครั้งใหม่มาสู่โลก และขอเรียกร้องอย่างแข็งขันให้สหรัฐฯ ถอนการตัดสินใจดังกล่าวในทันที" เธอระบุ
เกาหลีเหนือหล่อหลอมความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเครมลิน และสนับสนุนมอสโก หลังจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน
"สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจเลือกที่เป็นอันตราย ซึ่งนำพาไฟสาดส่องให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาอีกครั้งในฐานะผู้ทำลายสันติภาพ ทั้งในแง่ของการรุกรานและการสังหารหมู่ เช่นเดียวกับนโยบายแห่งชาติและวิถีการดำรงอยู่ของพวกเขา" โชกล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯ ประกาศว่าจะส่งกระสุนคลัสเตอร์ให้แก่ยูเครน ส่วนหนึ่งในแพกเกจความช่วยเหลือด้านความมั่นคงรอบใหม่มูลค่า 800 ล้านดอลาร์ แม้อาวุธดังกล่าวจะเป็นที่ถกเถียง เนื่องจากมันก่อความเสี่ยงแก่พลเมืองต่อไปอีกนานหลายสิบปี แม้สงครามสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม
พันธมิตรและคู่หูของสหรัฐฯ หลายชาติที่กำลังให้การช่วยเหลือยูเครนในปัจจุบัน เป็นหนึ่งใน 111 รัฐภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยระเบิดลูกปราย (Convention on Cluster Munitions) ซึ่งห้ามใช้ จัดเก็บ ผลิตและขนย้ายกระสุนคลัสเตอร์โดยสิ้นเชิง และมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2010
อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในอนุสัญญาดังกล่าว ในขณะที่รัสเซีย ยูเครนและสหรัฐฯ ก็ไม่ได้ลงนามในอนุสัญญานี้เช่นกัน
ยูเครนอ้างว่าการตัดสินใจของสหรัฐฯ จะช่วยปลดปล่อยดินแดนต่างๆ ของยูเครน และสัญญาว่าจะไม่ใช้กระสุนดังกล่าวโจมตีในดินแดนรัสเซีย
(ที่มา : รอยเตอร์)