เงินหยวนของจีนกำลังลดความได้เปรียบด้านการแข่งขันของดอลลาร์สหรัฐอย่างค่อยเป็นค่อยไป และได้มาซึ่งสถานะสกุลเงินสำรองของโลกแล้ว จากความเห็นของ อิกอร์ ชูวาลอฟ ประธานองค์กรเพื่อการพัฒนา VEB.RF แห่งรัสเซีย กล่าวรอบนอกเวทีสัมมนาอินเตอร์เนชันแนล อีโคโนมิก ฟอรัม ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันพฤหัสบดี (15 มิ.ย.)
ชูวาลอฟ กล่าวว่า ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมากในการมุ่งหน้าสู่การละทิ้งการพึ่งพิงดอลลาร์ และ "กระบวนการนี้จะเดินหน้าต่อไป"
"แม้กับพวกที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ ก็ยังมองว่าการเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจและการเงินในปัจจุบันจะเป็นตัวส่งเสริมการพัฒนาระบบชำระเงินทางเลือกอื่นที่ไม่ต้องพึ่งพิงระบบ SWIFT และดอลลาร์ เพื่อความปลอดภัยของพวกเขาเอง มันไม่ใช่ประเด็นของความน่าเชื่อถือหรือไม่น่าเชื่อถือ แต่มันเป็นข้อเท็จจริงของชีวิตที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรค ด้วยการสร้างระบบชำระเงินใหม่ๆ ขึ้นมา"
เขากล่าวว่า VEB.RF ไม่ได้ใช้ดอลลาร์ในการชำระเงินกับคู่หูต่างประเทศแล้ว โดยชำระเงินในรูปแบบสกุลเงินหยวน และสกุลเงินอื่นๆ ที่เป็นมิตรแทน "เวลานี้หยวนเป็นสกุลเงินสำรองของโลกแล้ว ไม่มีอะไรต้องปิดบัง"
จากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) สัดส่วนของดอลลาร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศของโลกลดลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ ที่ 58% ในไตรมาส 4 ของปี 2022 โดยหลายประเทศเริ่มปลีกหนีดอลลาร์จากการทำธุรกรรมข้ามพรมแดม ท่ามกลางกังวลเกี่ยวกับหนี้ที่พุ่งขึ้นของอเมริกาและการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างกว้างขวาง โดยใช้ดอลลาร์เป็นเครื่องมือ
รัสเซียซึ่งเผชิญมาตรการคว่ำบาตรจากวอชิงตัน หนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเมื่อปีที่แล้ว ได้ปรับเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าขายทางพลังงานเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบของรูเบิลและหยวน
ขณะเดียวกัน การปรากฏตัวของหยวนในตลาดโลกกำลังเติบโตขึ้น สัดส่วนของมันในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านตลาดอย่างไม่เป็นทางการเพิ่มขึ้นจากระดับเกือบ 0% เมื่อ 15 ปีก่อน เป็น 7% ในปี 2023 จากข้อมูลของธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ (BIS) ยิ่งไปกว่านั้น ในเดือนมีนาคมปีนี้ หยวนได้แซงหน้าดอลลาร์ในด้านการทำธุรกรรมข้ามชาติของจีน ในขณะที่พันธมิตรส่วนใหญ่ของพวกเขากำลังใช้ก้าวย่างต่างๆ ในการลดพึ่งพาดอลลาร์เช่นกัน
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)