ยูเครนสูญเสียทหารจำนวนมากพร้อมรถถังใน ‘ภารกิจฆ่าตัวตาย’ ตามคำแนะนำของอังกฤษ

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Ukraine plays “Light Brigade” with British advice
By DAVID P. GOLDMAN
10/06/2023

พวกผู้สังเกตการณ์ทางทหารทั้งชาวอเมริกันและชาวยุโรปในยูเครน พูดถึงความพยายามของกองทัพยูเครนใน 2 วันที่ผ่านมาว่าเป็น “ภารกิจฆ่าตัวตาย” ซึ่งละเมิดกฎเกณฑ์พื้นฐานทั้งหลายของยุทธวิธีทางทหาร “ถ้าคุณต้องการที่จะเปิดการรุก โดยที่คุณมีทหารอยู่สิบกว่ากองพลน้อย และมีรถถังอยู่ไม่กี่สิบคัน คุณก็ต้องรวมศูนย์กำลังเหล่านี้และพยายามที่จะเจาะทะลวง แต่ฝ่ายยูเครนกำลังวิ่งพล่านไปทั่วในทิศทางต่างๆ กัน 5 ทิศทาง” นายทหารอาวุโสชาวยุโรปผู้หนึ่งบ่นพึม



“เราพยายามบอกพวกเขาให้เลิกใช้ยุทธวิธีโจมตีแบบจับจดเช่นนี้ กำหนดทิศทางรุกหลักขึ้นมาทิศทางหนึ่งซึ่งมีกำลังทหารราบสนับสนุนอย่างเหมาะสม จากนั้นก็ทำสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้” นายทหารผู้นี้กล่าวต่อ

“พวกเขาได้รับการฝึกโดยพวกอังกฤษ และพวกเขากำลังแสดงบทบาทเหมือนกับเป็น กองพลน้อยอาวุธเบา (Light Brigade)” นายทหารผู้นี้พูดต่อ โดยหมายถึงความหายนะที่เกิดขึ้นเมื่อปี 1854 ระหว่างยุทธการบาลาคลาวา (Battle of Balaclava) ของสงครามไครเมีย เมื่อคำสั่งที่ผิดพลาดไม่ชัดเจนทำให้กองทหารม้าอาวุธเบาของอังกฤษ บุกตรงเข้าไปหาแถวปืนใหญ่รัสเซียที่ตั้งประจันหน้าอยู่อย่างหนาแน่น
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Charge_of_the_Light_Brigade - ผู้แปล)

ขบวนรถถังของยูเครน บุกตะลุยตรงเข้าไปในสนามทุ่นระเบิด โดยที่ไม่ได้มีการนำเอายานเคลียร์ทุ่นระเบิดมาเปิดทางให้ก่อน จนมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการสูญเสียรถถังไป 38 คันในช่วงคืนวันที่ 8 มิถุนายน ในจำนวนนี้เป็นรถถังแบบลีโอพาร์ด 2 (Leopard II) ที่เพิ่งได้รับมาใหม่ๆ

“มีฝ่ายยูเครนอยู่ 2-3 หน่วยซึ่งพยายามที่จะนำเอานำเอาวิธีการแบบกูเดเรียน มาใช้” แหล่งข่าวทางทหารอีกรายหนึ่งบอก โดยเป็นการอ้างอิงถึงการรบของ ไฮนซ์ กูเดเรียน (Heinz Guderian) นายพลชาวเยอรมัน ในการเจาะทะลวงเข้ายึดเมืองเซอด็อง (Sedan) ระหว่างยุทธการฝรั่งเศส (Battle of France) ปี 1940 “ทว่า กูเดเรียน มีรถถังอยู่ 3,000 คัน แต่พวกงี่เง่าพวกนี้วางเดิมพันได้แค่ด้วยรถถัง 30 คันที่พวกเขามีอยู่”
(ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ไฮนซ์ กูเดเรียน ได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Heinz_Guderian -ผู้แปล)

“และโดยที่ไม่ได้มีความเหนือกว่าในทางอากาศอีกด้วย” แหล่งข่าวรายนี้กล่าว พร้อมกับบอกว่า “มันก็คือภารกิจฆ่าตัวตาย”

พวกเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบ KA-50 และ KA-52 ของรัสเซียแต่ละลำบรรจุไว้ด้วยขีปนาวุธที่สามารถสังหารรถถังได้ 20 ถัง และสามารถทำเช่นนั้นได้จากจุดที่อยู่ห่างออกไปสัก 10 กิโลเมตร การป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนนั้นอยู่ในสภาพย่ำแย่ลงมามาก จากการถูกโจมตีโดยพวกโดรนราคาถูกๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งบังคับให้ฝ่ายยูเครนต้องนำเอาระบบ S-300 และขีปนาวุธแพทริออต (Patriot) ที่มีอยู่จำกัดในคลังแสงมาติดตั้งแบบกระจายตัวออกไปอีก ในบรรดารถถังลีโอพาร์ด จำนวน 14 คัน ที่เยอรมนีเพิ่งจัดหาจัดส่งให้แก่ยูเครน มีอยู่ 3 คันถูกทำลายไปพร้อมๆ กับพวกลีโอพาร์ดอีกหลายคันซึ่งจัดหาจัดส่งให้โดยโปแลนด์

คำแนะนำทางทหารสำคัญที่สุดของกองบัญชาการใหญ่ฝ่ายยูเครนนั้นมาจากพวกนายทหารชาวอังกฤษซึ่งฝังตัวอยู่ที่กองบัญชาการในกรุงเคียฟ

การให้ฝ่ายยูเครนหันมาใช้วิธีรวมศูนย์กำลัง ยังคงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เนื่องจากจนถึงตอนนี้มีกองพลน้อยที่ผ่านการฝึกจากฝ่ายตะวันตกเพียงแค่ 3 --และเป็นเป็นไปได้ว่าอาจจะถึง 4 กองพลน้อย กำลังถูกใช้งานอยู่ในซาโปริซเซีย แต่นั่นจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาอาศัยการตัดสินใจทางทหารแบบมีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่การตัดสินใจที่มีแรงจูงใจจากความสิ้นคิดในทางการเมือง